กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อเพจ กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ได้โพสต์เรื่องราวของโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งได้มีการวัดเสียงร้องเพลงชาติของนักเรียน ใครร้องไม่ดังต้องร้องใหม่อีก 3 รอบ โดยข้อความดังกล่าวได้ระบุว่า โรงเรียนจังหวัดปทุมชื่อเดียวกับมหาลัยดัง คิดระบบวัดความดังระดับเสียงการร้องเพลงชาติ หากร้องไม่ดัง ต้องร้องซ้ำใหม่ถึง 3 รอบ
ที่ผ่านมามีนักเรียนจากหลากหลายโรงเรียนส่งเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการให้ร้องเพลงชาติซ้ำเพราะเสียงไม่ดังอยู่หลายครั้ง แต่เคสนี้มีความคลั่งเพลงชาติอย่างรุนแรงเป็นพิเศษ ถึงขั้นมีระบบตรวจฟังเสียงดังไม่ดัง มีป้ายสีแสดงสถานะความดังอีกด้วย การร้องเพลงชาติไม่มีความจำเป็นที่จะต้องร้องเสียงดังให้ชาวโลกรับรู้ จึงขอยกบทความ “รักชาติให้มันดัง ๆ “ ฉบับย่อมาให้อ่านกันอีกสักครั้ง
การแสดงออกว่ารักชาติหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่เสียงที่ตะเบ็งออกไปตอนร้องเพลงชาติ มีวิธีการมากมายที่จะปลูกฝังให้นักเรียนรักชาติและก่อให้เกิดประโยชน์ได้มากกกว่าการยืนแหกปากเฉย ๆ เช่น การลดใช้ถุงพลาสติด การรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งนอกจากจะรักชาติแล้วยังรักโลกอีกด้วย
การที่นักเรียนร้องเพลงชาติไม่ดัง มักจะตามมาด้วยเหตุผลข้อกล่าวอ้างต่าง ๆ นานา ว่าไม่ใช่คนไทยบ้าง ไม่รักชาติบ้าง แต่สิ่งที่ทำให้เหตุผลดังกล่าวฟังไม่ขึ้นคือการที่ครูปิดปากเงียบสนิท และใช้สายตาสอดส่องมองปากนักเรียน ไม่แม้แต่จะร้องเลยสักแอะ นี่หรือครูผู้รักชาติที่กล่นด่านักเรียนว่าเป็นเด็กชังชาติ
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต
รักชาติไม่ได้อยู่ที่การร้องเพลง
ชาวเน็ตหลายท่านมาองว่าแท้จริงแล้ว เรายังมีวิธีแสดงออกถึงความรักชาติอีกมากมายหลายวิธี และก็มีอีกหลาย ๆ วิธี ที่สร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติได้ดีกว่าการตะโกนร้องเพลงชาติให้เสียงแหบเสียงแห้ง อย่างเช่น การลดการใช้พลาสติก การใส่ใจสิ่งแวดล้อม การดูแลและรักษาสภาพแวดล้อมในสังคม และที่สำคัญที่สุด คือการกล้าที่จะวิจารณ์ในสิ่งที่ล้มเหลว และพูดในสิ่งที่ถูกต้อง
ขอขอบคุณที่มาจาก: กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท
