เริ่มเก็บแล้ว ภาษีที่ดินใหม่ 2563 ไม่จ่ายเจอปรับ

          จากกรณีที่มีประกาศพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 กำหนดให้เริ่มจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไปนั้น ต่อมามีการเลื่อนเก็บภาษีที่ดินจากเดิมต้องเสียภาษีภายในเดือนเมษายน 2563 เป็นภายในเดือนสิงหาคม 2563 โดยเสียภาษี ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนเองอาศัยอยู่

        ล่าสุด นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม – 6 สิงหาคม 2563 กทม. สามารถจัดเก็บภาษีที่ดินได้ 20,910,676.66 บาท ซึ่งถือว่ายังไม่เข้าเป้าตามที่ประมาณการรายได้ ทั้งนี้ ต้องรอจนถึงวันสุดท้ายของการยื่นชำระภาษีในเดือนกันยายน 2563 ว่าจะสามารถจัดเก็บภาษีได้เท่าไร

        นายเกรียงยศ เผยว่า กทม. คาดการณ์รายได้ที่สามารถจัดเก็บได้ประจำปี 2563 จำนวนเงิน 5,000 ล้านบาท แต่เนื่องจากมีพระราชกฤษฎีกาลดค่าภาษีร้อยละ 90 จากเหตุโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงคาดว่า กทม. จะจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2563 เป็นจำนวนเงิน 500 ล้านบาท

        นายเกรียงยศ ระบุอีกว่า การจัดเก็บภาษีที่ดิน 2563 ถือเป็นปีแรกที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ จึงอาจมีข้อผิดพลาดในเรื่องของการจัดส่งเอกสารต่าง ๆ ไปยังผู้เสียภาษีบางราย กทม. ขอความร่วมมือประชาชนที่ประสงค์จะชำระภาษี และยังไม่ได้รับเอกสาร เดินทางมายังสำนักงานเขตที่ทรัพย์สินของตนเองตั้งอยู่ โดยแจ้งข้อมูลรายการทรัพย์สิน พร้อมแสดงเอกสารหลักฐาน เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้จัดทำบัญชีรายการ และออกใบแจ้งการประเมินภาษี ซึ่งประชาชนสามารถชำระภาษีได้ที่สำนักงานเขตได้ภายในวันดังกล่าว

 สำหรับผู้ที่ไม่มาชำระภาษีภายในเดือนสิงหาคม 2563 จะต้องเสียภาษีค้างชำระและเบี้ยปรับเพิ่ม ดังนี้

1. ถ้าผู้เสียภาษีไม่มาชำระภาษีภายในเดือนสิงหาคม 2563 แต่ต่อมาได้มาชำระภาษีก่อนที่จะได้รับหนังสือแจ้งเตือน โดย กทม. จะมีหนังสือแจ้งเตือนไปยังประชาชนผู้เสียภาษีภายในเดือนกันยายน 2563 ให้คิดเบี้ยปรับร้อยละ 10 ของจำนวนภาษีค้างชำระ

2. ถ้าผู้เสียภาษีมาชำระภาษีภายในระยะเวลาที่กำหนดในหนังสือแจ้งเตือน ให้คิดเบี้ยปรับร้อยละ 20 ของจำนวนภาษีค้างชำระ[ads]

3. ถ้าผู้เสียภาษีมาชำระภาษีภายหลังจากระยะเวลาที่กำหนด ในหนังสือแจ้งเตือนให้คิดเบี้ยปรับร้อยละ 40 ของจำนวนภาษีค้างชำระ

 4. ผู้เสียภาษีที่ไม่ได้มาชำระภาษีภายในเดือนสิงหาคม 2563 ให้เสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1 ต่อเดือนของจำนวนภาษีที่ค้างชำระ เศษของเดือนให้นับเป็น 1 เดือน โดยให้เริ่มนับเมื่อพ้นเดือนสิงหาคม 2563 จนถึงวันที่มีการมาชำระภาษี แต่ไม่ให้เกินกว่าจำนวนภาษีที่ต้องชำระ

        ทั้งนี้ ผู้เสียภาษีสามารถติดต่อชำระภาษีค้าง พร้อมทั้งเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ได้ที่สำนักงานเขตที่ทรัพย์สินของตนเองตั้งอยู่ โดยต้องชำระภายในเดือนกันยายน 2563 เนื่องจากหากพ้นระยะเวลาดังกล่าว กทม. จะมีหนังสือแจ้งรายการภาษีค้างชำระให้สำนักงานหรือสำนักงานที่ดินสาขาทราบ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองในที่ดินและอสังหาริมทรัพย์

ขอขอบคุณที่มาจาก: เดลินิวส์