เพจดังเล่าถึงอดีตเทศกิจเข้มงวดจนแม่ค้ากลัว แต่บ้านเมืองสะอาด

         เพจทวงคืนทางเท้า ได้ออกมาแชร์เล่าเรื่องราวในอดีต สมัยที่ถนนแต่ละสายนั้นยังสะอาดสะอ้าน บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่พอมาปัจจุบัน นอกจากรถติดแล้ว ทางเท้าก็ยังแน่น และเต็มไปด้วยร้านขายของ ทำให้คนที่เดินเท้านั้นเดือดร้อนอย่างมาก ซึ่งจากโพสต์นั้นได้ระบุว่า 

         50 ปีก่อนไม่มีการแทบละเมิดที่สาธารณะเลยครับ หลายคนคงจำภาพเจ้าหน้าที่เทศกิจวิ่งไล่จับพ่อค้าแม่ค้าที่จ้องจะตั้งหาบเร่แผงลอยได้ใช่ไหม ตอนนั้นคือว่าผู้ค้ากลัวเทศกิจกันมาก แต่ยุคนี้กลับต่างออกไปเทศกิจกับผู้ค้าดันซี้กันเป็นทอมกับเจอรี่ช่วงที่ไม่ไล่จับกันซะงั้น แถมยังมีผลประโยชน์ต่อกันไปอีก สภาพมันเลยเป็นแบบที่เห็นนั่นเอง

        ในยุคอดีตการวางผังเมือง การสร้างถนนหนทางก็คำนึงถึงคนใช้งานมากที่สุด แต่ในยุคต่อมาที่เกิดการละเมิดกันอย่างแพร่หลาย เข้าใจว่ามาจากการหาเสียงผู้ว่ากทม.ฯ ในยุคเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว อาจจะด้วยความหวังดีในนโยบายหาเสียงในยุคนั้นที่อยากให้ทุกคนสามารถทำกินบนทางสาธารณะได้ แต่มันได้ก่อให้เกิดการละเมิดพื้นที่สาธารณะกันมากมายมหาศาล เพราะคนที่มายึดพื้นที่ (ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีบ้าน แต่ยึดพื้นที่หน้าบ้านโดยปริยาย และแผงลอยที่เราเห็นกันทั่วไป รถยนต์จอดกันเต็มถนน รวมทั้งบนทางเดิน) กลับเข้าใจว่าทั้งพื้นที่หน้าบ้าน และถนนหน้าบ้านเป็นสิทธิ์ของตนเอง ซึ่งในต่างประเทศเขาไม่ทำกันครับ

        มีบางคนบอกว่า ความไร้ระเบียบระเกะระกะ เป็นเสน่ห์ของเมือง มันเป็นคำพูดของพวกที่ไม่รับผิดชอบ และขี้เกียจเปลี่ยนแปลงตัวเอง (สิงคโปร์แต่ก่อนก็เป็นแบบไทยครับ แต่เขาแก้ไขด้วยการวางผัง ออกแบบเมืองครับ เขาเจอปัญหาเหมือนเมืองไทย แต่เค้าแก้ก่อนแล้วครับ และทำสำเร็จด้วย

          หมายเหตุ หลังจาก กทม.ได้ผ่อนผันเรื่องการละเมิดในยุคแรกเมื่อ 30 กว่าปีก่อน ในการเลือกตั้งครั้งต่อๆมา ก็มีการประชานิยมอย่างหนักหน่วงเพื่อดึงคนกลุ่มละเมิดมาเป็นฐานคะแนนเสียงครับ

จากความคิดเห็น 

เรื่องนี้เกิดขึ้นมานาน

ถนนหลายสายมีปัญหาแบบนี้ 

        สำหรับคนยุคก่อนก็คงจะจำภาพถนน หรือ ฟุตบาทในอดีตได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะมีสัดส่วนที่ชัดเจน สะอาดสะอ้านแล้ว คนเดินเท้าก็ยังสะดวกสบายในการใช้ถนนด้วย  แต่ในปัจจุบันเราก็ได้ เห็นภาพของร้านขายของที่มีอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองจนชินตาไปแล้ว

ขอขอบคุณที่มาจาก : กลุ่มคนไทยขอทวงคืนทางเท้า