สาเหตุ ที่เลิกดื่มกาแฟแล้วปวดหัว เป็นเพราะอะไร

           กาแฟ หนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมที่หลายคนดื่มในยามเช้าหรือยามง่วงนอน เพื่อปลุกสมองให้ตื่นตัว คลายความเหนื่อยล้าทั้งทางกายและทางจิตใจ สำหรับคอกาแฟ ไม่ว่าจะเช้า สาย หรือบ่ายแก่ๆ กาแฟก็คือส่วนหนึ่งในความอภิรมย์ระหว่างวัน ซึ่งหลายคนอาจน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 

              กาแฟ จัดเป็นเครื่องดื่มที่แพร่หลายและเป็นที่นิยมในเกือบทุกประเทศทั่วโลก เพราะทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า จนเมื่อดื่มเป็นประจำจะทำให้เกิดภาวะติดกาแฟ เมื่ออยากจะเลิกกาแฟกลับพบปัญหาว่าไม่สามารถเลิกได้ เนื่องจากจะมีอาการปวดหัวจากอาการถอนกาเฟอีน หรือ Caffeine withdrawal

              ทั้งนี้ เพราะกาเฟอีนเป็นสารเคมีหลักในกาแฟที่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ทำให้สมองแจ่มใส กระชุ่มกระชวย กระฉับกระเฉง ไม่ง่วงเหงาหาวนอน  และยังมีฤทธิ์เสพติดด้วยซึ่งอาการถอนกาเฟอีนที่ว่านั้นประกอบไปด้วยอาการปวดหัวซึ่งพบได้มากที่สุด และมีความรุนแรงแตกต่างกันในแต่ละคน ทั้งปวดบีบๆ ปวดตุ้บๆ รวมทั้งมีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ไม่ตื่นตัวกระฉับกระเฉง ง่วงซึมเซา มึนงง สมองไม่โปร่ง รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีอาการซึมเศร้า หดหู่ ไม่มีสมาธิ รวมทั้งมีอาการหงุดหงิด และคลื่นไส้อาเจียน  ความรุนแรงของอาการนั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณกาเฟอีนที่ดื่มในแต่ละวัน ยิ่งดื่มมากอาการก็จะยิ่งรุนแรงหากไม่ได้ดื่ม

ฉะนั้นคนที่อยากจะเลิกแนะนำดังนี้ 

1.ค่อยๆ ลดปริมาณการดื่มลดลงเรื่อยๆ ทีละน้อยในแต่ละวัน อย่าหยุดหรือลดกะทันหัน 

2.รับประทานเครื่องดื่ม ชนิดอื่นๆ ที่มีกาเฟอีนอยู่  อาทิ ชา โกโก้ น้ำอัดลม ไอศกรีมรสกาแฟ ช็อกโกแลต เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นต้น

            แม้ในระยะหลังกระแสรักสุขภาพจะกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนคำนึงถึงมากขึ้น แต่ “กาแฟ” ก็ยังเป็นอะไรที่เราขาดไม่ได้ หลายคนปรับการดื่มจากกาแฟผสมนม เติมไซรัป เพิ่มวิปครีม มาเป็นกาแฟสดแบบอเมริกาโน่ ลดน้ำตาล หรือไม่เติมความหวานเลยก็มี แต่อีกหลายคนก็เลือกที่จะ “เลิกดื่มกาแฟ”เหตุเพราะการแชร์ข้อเสียของการติดกาเฟอีนที่เห็นกันในโลกออนไลน์

เรียบเรียงโดย: tkvariety