จากที่ทราบกันดีว่า รัฐบาลได้จัดตั้งโครงการ ร่วมใจพี่น้องไทยช่วยภัยน้ำท่วม เพื่อเปิดรับบริจาคเงินช่วยน้ำท่วมซึ่ง มีธารน้ำใจหลั่งไหลร่วมบริจาคเป็นเงิน จำนวนกว่า 263 ล้านบาท นั้นทาง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เผยว่า มีขั้นตอนใช้จ่ายสำหรับฟื้นฟูเยียวยา ยันไม่ซ้ำซ้อน "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ย้ำ หน่วยงานรัฐบริจาคเงินได้ไม่ผิด
โดยนายวิษณุ กล่าวถึงการจัดสรรเงินบริจาคน้ำท่วมในโครงการ ร่วมใจพี่น้องไทยช่วยภัยน้ำท่วม จำนวนกว่า 263 ล้านบาท ว่า การจัดสรรงบประมาณต้องจัดสรรผ่านกองทุนบรรเทาสาธารณภัยของรัฐที่มีระเบียบปฏิบัติตายตัวอยู่แล้ว จะเอาไปแจกแบบเอกชนไม่ได้ ต้องมีการตรวจสอบความเสียหาย และต้องรายงานผ่านกรมบรรเทาสาธารณภัย หรือทางจังหวัด จะให้เอาเงินไปเดินแจกแบบที่ นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เปิดรับบริจาคก็ทำไม่ได้ เพราะเงินส่วนนี้อยู่ภายใต้การตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เพราะถ้าทำเช่นนั้น จะเกิดปัญหาความไม่โปร่งใส เลือกที่รักมักที่ชัง ซึ่งเคยมีคดีความมาแล้วใน ป.ป.ช. ยืนยันว่า การจัดสรรเงินส่วนนี้จะไม่ซ้ำกับเงินบริจาคของนายบิณฑ์ ที่มุ่งเน้นการซื้อเครื่องอุปโภค บริโภค ในการช่วยเหลือ แต่เงินกองทุนของรัฐบาลจะเอาไปช่วยในลักษณะ การฟื้นฟู เยียวยา เช่น ซ่อมบ้าน แต่ไม่รวมการซ่อมถนน เพราะต้องใช้งบประมาณแผ่นดิน
โดยนายกรัฐนตรี ได้วางแนวทางการช่วยเหลือไว้แล้ว 3 ระยะ คือ
1.การป้องกันก่อนเกิดเหตุ
2.ระหว่างกำลังเกิดเหตุ และ
3. ฟื้นฟูหลังเกิดเหตุ
ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์เข้าไปช่วยเหลือช้ากว่าภาคเอกชนนั้น นายวิษณุ ยอมรับเพราะกลไกของภาครัฐทำให้ต้องเป็นเช่นนั้น ส่วนการที่หน่วยงานราชการและกระทรวงต่างๆ นำงบประมาณมาบริจาค ยืนยันว่า สามารถทำได้ เพราะแต่ละหน่วยงาน มีงบฯ ในกรณีจำเป็นฉุกเฉินอยู่แล้ว แม้แต่ตัวเองลงพื้นที่ต่างจังหวัด ยังสามารถอนุมัติงบฯ เซตละ 50 ล้านบาท
ขอขอบคุณที่มาจาก : thairath.co.th