ร้านค้าทยอยขึ้นราคาน้ำอัดลมที่มีน้ำตาล2-3บาท

       จากกรณีกรมสรรพสามิตประกาศขึ้นภาษีความหวาน โดยหลังที่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ถึง 30 กรกฎาคม 2564 จะเก็บ 3 บาทต่อลิตร และหลังจากนั้นจะปรับเพิ่มสูงสุด 5 บาทต่อลิตร จากการสำรวจ ขณะนี้ร้านค้าปลีก และร้านโชห่วยทั่วประเทศ ได้แจ้งปรับขึ้นราคาเครื่องดื่มน้ำอัดลมสองยี่ห้อดังทั้ง “โค้ก” และ “เป๊ปซี่” สูตรมีน้ำตาลแบบดั้งเดิม เฉลี่ยขวดละ 2-3 บาท​

       โดยให้เหตุผลว่าส่วนหนึ่งมาจากการปรับขึ้นภาษีความหวานของกรมสรรพสามิตรอบสองที่จะมีผลในวันที่ 1 ต.ค.นี้

       ขณะที่เครื่องดื่มน้ำอัดลมที่เป็นน้ำสี อาทิ แฟนต้า และ สไปรท์ ขนาด 330 มล. มีการปรับขึ้นจากเดิม 10 บาท เป็น 12 บาท ส่วนขวดขนาด 450 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 12 บาท เป็น 15 บาท และน้ำมะนาวโซดา ขนาด 400 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 15 บาท เป็น 17 บาท ในขณะที่น้ำอัดลมยี่ห้อ มิรินด้า และ เอส จากการสำรวจตามร้านสะดวกซื้อ พบว่ายังคงไม่ปรับขึ้นราคา เนื่องจากสินค้าที่ตั้งวางยังคงเป็นของที่อยู่ในสต๊อกเดิม

       สำหรับเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่เป็นน้ำสี อาทิ แฟนต้ารวมถึงสไปรท์ บรรจุขวดพลาสติกใสขนาด 330 มล. มีการปรับขึ้นจากเดิม 10 บาท เป็น 12 บาท ส่วนขวดขนาด 450 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 12 บาท เป็น 15 บาท และน้ำมะนาวโซดา ขนาด 400 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 15 บาท เป็น 17 บาท ในขณะที่น้ำอัดลมยี่ห้อ “มิรินด้า” และ “เอส” ทั้งน้ำดำและน้ำสีจากการสำรวจตามร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น-อี เลฟเว่น” พบว่ายังคงไม่ปรับขึ้นราคา เนื่องจากสินค้าที่ตั้งวางยังคงเป็นของที่อยู่ในสต๊อกเดิม

       ด้าน นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หากพบว่ามีร้านค้ากักตุนและปฏิเสธการขายในช่วงนี้เพื่อจะนำไปขายหลังปรับราคาในวันที่ 1 สิงหาคม นี้ จะถือว่ามีความผิด ซึ่งมีโทษสูง จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

เรียบเรียงโดย : tkvariety.com ขอขอบคุณที่มา : springnews