แม่เครียดเลี้ยงลูกไม่แข็งแรงเหมือนลูกคนอื่น กดดันจนไม่ยากมีลูก 

       คุณ นุ้งหนุ่ย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปได้ออกมาโพสต์แชร์เรื่องราวของตัวเองหลังจากที่ตัดสินใจมีลูก ซึ่งต้องมานั่งเครียดทุกวันเนื่องจากว่าลูกเป็นเด็กกินน้อย ไม่แข็งแรงเหมือนกับลูกคนอื่นๆ ทั้งที่เลี้ยงดูอย่างดี เลยทำให้คุณแม่ไม่มีความสุข ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้คิดอยากมีลูกมากๆ โดยจากโพสต์นั้นได้ระบุว่า 

พอมีลูกแล้ว รู้สึกว่ามันหดหู่ไปหมด ไม่มีความสุขเลย

เป็นคนรักเด็กค่ะ แล้วก็อยากมีลูกมาก รู้สึกว่าเวลาเห็นครอบครัวที่มีเด็กๆมันน่ารัก 

แต่พอมีเองจริงๆแล้ว มันไม่เป็นแบบที่คิดไว้เลย

ลูกเป็นเด็กกินยาก วันๆแทบไม่กินอะไรเลย

ตอนนี้ 2 ขวบ 2 เดือนแล้ว การเจริญเติบโตช้า ปวดใจทุกครั้งเวลาถอดเสื้อผ้าลูก เห็นแต่กระดูกซี่โครง

สารพัดจะสรรหาวิธี ที่ทำให้เค้ากิน

เค้ากินน้อยตั้งแต่แรกเกิด กินนมไม่จุเหมือนเด็กคนอื่น 

เรารู้สึกแย่ ที่เห็นลูกไม่โต ไม่แข็งแรง เราไม่มีความสุขเลย เราเลี้ยงเค้าอย่างดี

 ตามพื้นฐานสมุดสีชมพู  วิธีไหนที่ว่าดีเราทำหมด 

ทำจนท้อ ไม่มีอะไรดีขึ้น บางคนเลี้ยงลูกทิ้งๆขว้างๆ

แต่ผลลัพของลูกเค้าทำไมดีกว่าลูกเรา

แข็งแรง อ้วนท้วนสมบูรณ์ 

จนตอนนี้รู้สึกว่าคิดผิดจริงๆ

เราไม่น่ามีลูกเลย ย้อนกลับไปได้เราจะไม่มีลูก

ทีแต่ความทุกข์ ยิ่งตัวเองเป็นแบบนี้

เวลาอยู่กับลูก เราก็แสดงอาการด้านลบออกมา

ไม่น่าเลยจริงๆ เราควรทำยังไงดีคะ

      จากเรื่องนี้ก็มีสมาชิกหลายๆท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกับให้คำแนะนำคุณแม่ ดังนี้

ความคิดเห็นจากคุณ ฟ้าหมาดฝน  

– ถ้าน้ำหนักและส่วนสูงตกเกณฑ์ ลองพาพบแพทย์ค่ะ (หมอเด็กนะคะไม่เอาหมอทั่วไปเพราะเค้าอาจประเมิน ปห.ไม่ตรงจุด)

– ถ้าไม่ตกเกณฑ์ทำใจเย็นๆรอไปก่อนค่ะ โดยเฉพาะถ้าเด็กสูงดีแต่ผอม อันนี้ไม่ซีเรียส แต่ถ้าสูงตกเกณฑ์ควรพบแพทย์(ความสูงบอกถึง ปห.มากกว่า ถ้าเด็กทั้งผอมทั้งเล็ก อาจมีโรคเรื้อรังซ่อนอยู่คือมันเป็นไปทั้งตัว แต่ถ้าเด็กสูงแต่ผอม มักแค่กินน้อย)

– คุณแม่อาจเครียดมากไป มีคนช่วยพอจะพักได้หรือเปล่า หรือหาเวลาว่างไปเที่ยวบ้าง

– ปห.ความเครียดลองมองที่ต้นเหตุตามที่บอกค่ะ เรื่องที่เราเครียดมันเป็น ปห.จริงๆหรือเปล่าหรือ เราคิดมากไป หรือคนอื่นมาพูดแล้วเราใส่ใจมากไป

ความคิดเห็นจากคุณ 198259  

คุณแม่กังวลมาก  เลยไม่มีความสุข …  …

ตอนลูกเราเล็กๆ  ก็น้ำหนัก ส่วนสูง ไต่เส้นปกติตลอด  ต่ำกว่าเกณฑ์ก็เคย …จน ป1 ถึงเท่าเพื่อน ต่อมาก็ปกติดีค่ะ  

ถ้าคุณแม่ปรึกษาหมอเด็ก ทำทุกวิธี แล้ว  ใจเย็นๆ ลดการคาดหวังบ้าง  ถ้าหมอว่าปกติ ก็ยอมรับ เค้าอาจจะเป็นเด็กตัวเล็ก ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่คะ

หรือ ถ้าหมอว่าเค้าต้องปรับ ต้องเลี้ยงวิธีอื่น เราก็ทำไป……ทุกอย่างแก้ไขได้ ปรับตัวได้หมด 

“ เราไม่น่ามีลูกเลย ย้อนกลับไปได้เราจะไม่มีลูก มีแต่ความทุกข์ “  อย่าคิดอย่างนี้เลย สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว ดีเสมอ…มองตาลูกไว้  ดูความไร้เดียงสาของลูก  มันน่ารักนะคะ  เค้ายังช่วยตัวเองไม่ได้  ลูกน้อยมีคุณแม่ เป็นที่พึ่งเท่านั้น ……ความทุกข์ของคุณแม่ เกิดจากตัวคุณแม่เอง  ลูกน้อยไม่รู้เรื่องอะไรด้วย

ความคิดเห็นจากคุณ buta_tainuki  

อย่าคิดแบบนี้เลยค่ะ สงสารน้องมากๆ ตอนเด็กๆพ่อ แม่ชอบเล่าให้เราฟังว่าคนอื่นชอบมาว่าเรา จมูกแบน ตัวเล็กๆแกร็นๆ ไม่น่ารัก เหลาเกี้ย และชอบเปรียบเทียบกับญาติอีกคนที่อายุใกล้เคียงเราว่าน่ารัก เหมือนตุ๊กตา พ่อกับแม่บอกว่ารู้สึกโมโหทุกครั้งที่ได้ยินคนอื่นพูดแบบนี้ ได้แต่บอกว่ารอดูตอนโตละกัน 5555 และคอยบีบจมูกเราให้ดั้งขึ้น  เราควรเป็นคนที่ลูกรู้สึกอบอุ่นใจที่สุดเมื่ออยู่ด้วยนะคะ

ความคิดเห็นจากคุณ Win_Mom 

ลูกพี่ก็ผอมค่ะ​ คลอดมาแค่2.2โล จนตอนนี้อายุ12แล้วก็ยังผอม

ไม่รู้ว่าจขกท.โดนใครว่าเอาหรือโดนเอาไปเปรียบเทียบกับลูกคนอื่นหรือเปล่า​ แต่พี่จะบอกว่า​ พี่โดนว่าโดนเปรียบเทียบมาตลอด​ เคยคิดเหมือนกันค่ะว่าไม่น่ามีลูกเลย​ สงสารลูกมากที่ต้องเกิดมามีแม่แบบเรา

แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปจนเค้าเริ่มเข้าโรงเรียน​ เห็นความเติบโตของลูกอย่างค่อยเป็นค่อยไป​ แม่มีความสุขมากๆค่ะ​ เริ่มทำใจได้ว่า​ เด็กแต่ละคนนิสัยต่างกัน​ ความเป็นอยู่ต่างกัน​ จะตัวอ้วนตัวผอมก็ขอแค่ให้เค้าสุขภาพแข็งแรง​ ร่าเริงแจ่มใส​ เป็นที่รักของเพื่อนๆครูบาอาจารย์​ก็พอค่ะ

ใจเย็นๆนะคะ​ เลี้ยงเค้าให้ดีตามที่เราตั้งใจ​ สู้ๆค่ะ

ความคิดเห็นจากคุณ กิ่งทองใบหยก 

เอาใจช่วยคุณแม่นะคะ เราก็เป็นคนนึงที่เคยคิดว่ามีลูกแล้วชีวิตแย่ลงจัง มันแย่ลงจริงๆ ค่ะในด้านชีวิต และเรื่องส่วนตัว เราไม่เถียง

– เวลาที่เคยไปทำอะไรส่วนตัว เช่น ทำผม นวดเท้า เดินเล่น นอนดูทีวี ฯลฯ หายหมดเกลี้ยง

– เงินเดือนได้มาเคยซื้อของที่ตัวเองชอบก็ไม่ได้ซื้อ เพราะอยากเก็บไปซื้อให้ลูกแทน

– อยากไปเที่ยวไหนเริ่มต้องคิดเยอะขึ้น ดูความปลอดภัยมากขึ้น แพลนสถานที่ ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ที่จะแวะเยอะขึ้น เน้นลูกเป็นหลัก กิจกรรม สถานที่ท่องเที่ยวแทบทุกอย่างเน้นของเด็กหมด รวมถึงร้านอาหารด้วยว่าลูกจะทานได้ไม๊

– เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ เหนื่อยคูณสอง เพราะเขายังเล็ก ทานยากเพราะอาหารไม่ถูกปาก เดินเยอะไม่ไหวต้องแบกต้องอุ้มกันไป พอตกหัวค่ำก็ง่วงโยเยกันแล้ว ก็อุ้มตุเลงกันตลอดทริป เป็นอะไรที่เหนื่อยมาก แต่ก็ยังดั้นด้นจะไปปีละครั้ง

ลูกเราก็เป็นเด็กทานยากค่ะ ตอนนี้คนโต 10 ขวบแล้ว ทานได้ทุกอย่างละ เลยจุดทานยากอันนั้นมาแล้ว  ส่วนคนเล็ก 7 ขวบ ยังเลือกทานอยู่ แต่ก็ดีขึ้นตามลำดับนะคะ ขอให้สู้ๆ ค่ะ  ลูกเรา 2 คน ตัวเล็กทั้งคู่  เราก็ทำให้ดีที่สุด ได้แค่ไหนแค่นั้น เพราะเครียดไปก็ไม่ทำอะไรให้ดีขึ้น เราก็เครียดเพราะอยากให้ลูกทานได้เยอะ อยากให้โต  และลูกก็เครียดเพราะเราพยายามบังคับเขาให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ  ดังนั้นเดินทางสายกลาง ค่อยเป็นค่อยไป ซื้อวิตามินมาให้ทานไปค่ะ ตัวเล็กแต่แข็งแรงก็โอเคน่า (แอบคิดในใจเพราะทำดีที่สุดแล้ว)

ปัจจุบันความสุขของคนเป็นแม่คือการได้เห็นลูกยิ้ม ลูกหัวเราะ ได้เห็นเขาทำในสิ่งที่เขารัก แม้ว่าบ่อยครั้งสิ่งเหล่านั้นเราจะเหนื่อยมาก แต่เราก็ happy เพราะเขาคือแก้วตาดวงใจจริงๆ

      สำหรับคนที่มีลูก และเคยผ่านการเลี้ยงลูกมานั้นก็คงจะทราบกันดีว่าเหนื่อยขนาดไหน ยังไงคุณแม่ก็อย่าเครียด ที่สำคัญอย่าเอาลูกของเราไปเปรียบเทียบกับลูกของคนอื่นเพราะไม่เช่นนั้นก็จะเครียดและไม่มีความสุข ยังไงก็หาเวลาไปเที่ยวและพักผ่อนบ้างนะคะ 

ขอขอบคุณที่มาจาก : นุ้งหนุ่ย