กว่าจะได้เป็นแอร์โฮสเตสสายการบินระดับโลก กับภารกิจกู้หน้า

       คุณ สมาชิกหมายเลข 5118528 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปได้ออกมาโพสต์เล่าประสบการณ์กว่าที่จะได้เป็นแอร์สายการบินระดับโลก และการกอบกู้หน้าพังเพราะสภาพแวดล้อมต่างเมืองโดยจากโพสต์นั้นได้ระบุว่า

กว่าจะได้เป็นแอร์สายการบินระดับโลก 

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ เราจะมาเล่าประสบการณ์ เส้นทางการติดปีกของเราให้ทุกคนฟังกัน เส้นทางการเป็นแอร์โฮสเตส ทุกคนคิดว่ามันง่ายใช่ไหมคะ…?แต่ไม่เลยย วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องราวของเราให้ฟัง อาจจะยาวหน่อย แต่คิดว่าอ่านกันเพลินๆไปนะคะ การเป็นแอร์โฮสเตสในภาพลักษณ์ของบุคคลภายนอกที่มองมา อาจจะมองว่า โหยเธอโชคดีจัง แค่พูดภาษาอังกฤษได้ ก็จะได้แต่งตัวสวยๆ ขึ้นเครื่องไปเที่ยวฟรี ไปยุโรปบ้าง ไปอเมริกาบ้าง โอโหยยยยยยย ชีวิตดีย์ แต่กว่าจะผ่านแต่ละด่านมาได้เนี่ย ลากกกเลือดเลยค่ะ โดยเฉพาะการทำงานกับสารการบินชั้นนำระดับโลก(ที่สาวๆหลายคนใฝ่ฝัน)มันไม่ใช่ง่ายๆเลยค่ะ แต่ละด่านเนี่ย!!

เอาละเรามาเริ่มกับที่การสมัครดีไหมคะ ก่อนการเข้าทำงาน เราต้องสมัครเข้าสัมภาษณ์สุดโหดก่อน ยิ่งสายที่เราเข้ามาเนี่ย เรียกได้ว่าคนสมัครทั้งหมดจำนวน3,000คน แต่คนโดนเรียกไปสัมภาษณ์แค่2,000คนเท่านั้น แล้วกว่าจะผ่านการสัมภาษณ์ที่มีทั้งหมดหลายรอบ โอ้แม่เจ้าเรียกได้ว่า ทุกรอบที่เข้าไปสอบจะมีคนโดนตัดออกทุกรอบ พอถึงเราก็ตุ๊มต่อมๆอะเนอะว่าเราจะรอดไหม แต่สุดท้าย พระเจ้ายังรักเราอยู่ เราก็ได้เข้ามาเทรนกับสายการบินระดับโลก เย่!!!

      เราว่าสิ่งนึงที่เราได้ผ่านการสัมภาษณ์มาอยู่ที่นี่ เพราะวันสัมภาษณ์นั้น เราเตรียมตัวมาพร้อม และเราคิดว่าเราสวยที่สุดในวันนั้น เรามั่นใจในภาพลักษณ์และความสามารถของเรา เราตอบคำถามกรรมการด้วยความจริงใจ และโชว์ความกระตือรือร้นใหกรรมการเห็น วันที่เราไปสัมภาษณ์ เราใส่สูทธรรมดาที่ซื้อมาจากunion mallใส่เสื้อทับข้างในสีขาว กับกระโปรงนักศึกษา แต่สิ่งที่พกไปด้วยตลอดเวลา คือ รอยยิ้ม ไม่ว่าจะตอบอะไรไม่ได้ ก็แต่sorryแล้วยิ้มไปอย่างจริงใจมากที่สุด(ต้องมั่นใจด้วยนะว่าไม่มีอะไรติดฟัน)

     พอรู้ผลว่าสอบติดปุ๊บ เราก็รีบทำทุกอย่างที่อยากในประเทศไทย ไปกินอาหารไทย กินบุฟเฟ่ต์ ร่ำลาพ่อแม่พี่น้องปู้ย่าตายาย หลานเหลนโหลน ทุกคนว่าจะจากบ้านไปทำงานแล้วเด้อ ต้องเดินทางไกลไปหางานทำ และแล้ววันเดินทางก็มาถึงจ้าแม่ เราได้เดินทางไปกับสายการบินที่เราทำงานด้วย สารภาพว่า คิดถึงบ้านมากก ตั้งแต่เครื่องtake-offเลย แต่ก็นะ เราต้องทำตามความฝันของเรา..

     พอมาถึงปุ๊บ ถึงแม้ประเทศที่เราอยู่นั้น จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่สะอาดมาก แต่ด้วยความร้อน ความชื้นทำให้เราเริ่มมีปัญหาผิว… บวกกับการที่เราย้ายมาอยู่แปลกที่ ทำให้ผิวเราเริ่มshockกับสภาพแวดล้อม… เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่ เราย้ายมาอยู่ในบ้านของเราเอง บ้านที่เราเช่าอยู่มีฝุ่นเยอะมาก เพราะ เราต้องอยู่ใกล้กับสนามบิน เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง เมื่อเราได้บินจริงแล้ว นั่นยิ่งทำให้เราเริ่มมีสิวอุดตันเพิ่มเข้ามา

     เมื่อการเทรนได้เริ่มต้นขึ้น ทุกอย่างกดดันและเครียดมากก เพราะบริษัทอยากให้เราออกมาเป็นcabin crewที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้น เขาจึงใส่ใจในทุกรายละเอียด เรารู้สึกกดดันในตัวเอง อยากทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ความเครียดสะสม บวกกับการที่เราต้องแต่งหน้าและสเปร์ยผมทุกวันทำให้เรามีสิวขึ้น และเมือเกิดสิวปัญหาที่ตามมาก็คือ รอยสิว…

      โชคดีที่เราพกskin care setที่ดูแลผิวติดตัวมาจากประเทศไทย items  ที่กู้หน้าพังๆของเราคือ อุปกรณ์ล้างเครื่องสำอาง

       1. Clean it zero ของBanila Co.ตัวนี้เราใช้เป็นตัวแรกในการทำความสะอาดใบหน้า เราแนะนำตัวนี้ แต่เรารู้สึกว่า มันยังไม่ค่อยสะอาดทั้งหมดเท่าไหร่ แต่เครื่องสำอางออกไปสักประมาณ30%

        2. Bioderma ตัวนี้ชื่อดังอยู่แล้ว เราว่าหลายคนน่าจะรู้จัก เราใช้ขวดสีชมพูสำหรับ ผิวแพ้ง่าย เราจะใช้สำลีเช็ดจนกว่าสำลีจะกลายเป็นสีขาวสะอาด ไม่มีฝุ่นหรือเครื่องสำอางติดมากับสำลี  อาจจะมีคนสงสัยว่าทำไมต้องล้างหน้าสองรอบวนไปเวียนมาจ๊ะเธอจ๋า ก็เพราะว่า การล้างหน้านั้น สำคัญมากกกก เราควรล้างให้สะอาด เราเลยเริ่มที่การล้างด้วย Clean it zeroแล้วต่อด้วยBioderma  เพราะที่จะmake sureว่าหน้าจะสะอาดจริง

ขั้นตอนการล้างหน้า

       1. Acne Aidขวดสีแดง เราใช้ขวดนี้ เพราะอยู่ที่นี่อากาศมันค่อยข้างชื้น เลยทำให้หน้ามัน  Acne Aidขวดนี้คือดีมากกก เพราะมันเหมาะกับคนที่มีผิวหน้ามัน แล้วอีกอย่าง เราต้องแต่งหน้าหนักทุกวัน เรารู้สึกว่าตัวนี้ช่วยทำความสะอาดได้ดีกว่าตัวอื่นๆ

หลังล้างหน้า

        1.โทนเนอร์ เก็กฮวย ชื่อดัง (Kiehl's Calendula Herbal Extract Alcohol-Free Toner) ตัวนี้ก็คือ ดีมากก เหมือนกัน มันคือไอเท็มกูหน้าพังของเราอีกตัวนึง ด้วยความที่มันไม่มีแอลกอฮอล์ เรารู้สึกสบายใจที่จะใช้ตัวนี้ ปล.เราชอบกลิ่นของตัวนี้ บางคนอาจจะไม่ชอบแต่ลองไปดมดูก่อนนะ อิอิ

         2.clinique72 hour moisture surge ตัวนี้เราใช้เพิ่มความชุ่มชื้นในผิว เพราะเหมือนมาอยู่นี่ ผิวเราแห้งง่ายมาก เราเลยต้องการความชุ่มชื้นไปเติมเต็มให้กับผิว เสริมสร้างในผิวแข็งแรงขึ้น

         3.MARIO BADESCU (Drying Lotion) อันนี้เราใช้แต้มสิว ใช้เหมือนตัวแต้มสิวทั่วไป วิธีใช้คือ ใช้คอตตอนบัทจุ่มลงไปตรงยาสีชมพู แล้วทิ้งไว้ทั้งคืน จะทำให้สิวแห้งไวขึ้น แต่ข้อห้ามของการใช้ยาตัวนี้ คือ ห้ามเขย่า!!ต้องทิ้งเอาไว้ให้มันตกตะกอนก่อนแล้วค่อยใช้

         การเป็นแอร์โฮสเตสเก่งพูดภาษาอังกฤษได้ แล้ว ภาพลักษณ์ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน หากพูดถึงการสัมภาษณ์สมัครเป็นแอร์โฮสเตส สิ่งแรกที่กรรมการตามหา สำหรับเรา เราว่าFirst impressionบางคนอาจจะมีความคิดในใจว่า โถ เราไม่ใช่คนสวยสักหน่อย แบบนี้เราก็เสียเปรียบสิ แต่!ไม่เลยค่ะ ถ้าเราหน้าใสไร้สิว ยิ้มสวย ยิ้มอย่างจริงใจ มีความมั่นใจในตัวเอง เราว่าสิ่งนี้จะสร้างความประทับใจให้กับกรรมการตั้งแต่แรกพบ เราก็จะได้แต้มต่อไปแล้วว  เราว่า การดูแลตัวเองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

       ทั้งนี้ทางเจ้าของโพสต์ยังกล่าวปิดท้ายด้วยว่า สู้ๆนะคะ ทุกคน เส้นทางนี้ๆอาจจะไม่ได้มาได้ง่ายๆ แต่ไม่อยากให้ทุกคนยอมแพ้ หากเรามีความมั่นใจ ประกอบกับความสามารถ เรามั่นใจว่าทุกคนจะต้องได้ติดปีกสักวันแน่นอน

ขอขอบคุณที่มาจาก : สมาชิกหมายเลข 5118528