ไขข้อข้องใจ เบาหวาน ทำไมเป็นแล้วอาจถูกตัดขา

        เบาหวาน เป็นโรคที่ใครๆก็รู้จัก และส่วนมากจะเข้ากันเป็นที่เรียบร้อยว่าสาเหตุมาจากพฤติกรรมการกินอาหารที่มีรสหวาน หรือรสจัดมากเกินไป รวมไปถึงแป้งต่างๆ และมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นหากครอบครัวมีประวัติเคยเป็นโรคเบาหวานมาก่อน หลายคนอาจจะสงสัย ว่าการเป็นเบาหวาน ทำไงหลายคนต้องโดนตัดขา วันนี้เราจึงจะพาไปไขข้อข้องใจในเรื่องนี้

           ปกติเวลาเราทานข้าว ร่างกายก็จะเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด จากนั้นร่างกายก็จะหลั่งสารอินซูลินออกมาเพื่อย่อยน้ำตาลไปใช้งาน คนที่เป็นเบาหวานการทำงานของอินซูลินไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ร่างกายจึงเอาน้ำตาลไปใช้งานไม่ได้ เวลากินอาหารที่มีน้ำตาล ก็ทำให้น้ำตาลสะสมค้างอยู่ในเลือดเยอะ น้ำตาลในเลือดสูงนอกจากจะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดอุดตันได้ง่ายแล้ว ยังทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและเสียความยืดหยุ่นอีกด้วย

            เราจึงเห็นว่าคนเป็นเบาหวานเรื้อรัง ร่างกายมักจะผอม เพราะร่างกายดึงพลังงานมาใช้ไม่ได้ ซึ่งการมีน้ำตาลผสมอยู่ในเลือดมากๆ จะทำให้เลือดข้นขึ้น นึกภาพเวลาใส่น้ำตาลในเครื่องดื่มเยอะๆ แล้วมันจะเหนียวๆ เลือดในร่างกายเราก็แบบนั้นเลยครับ 

           สมมุติให้หัวใจคือปั้มน้ำ แล้วหลอดเลือดที่มีน้ำตาลผสมอยู่เปรียบเสมือนสายยางที่มีตะไคร่เกาะเต็มสาย สายยางแบบนี้ แรกๆ น้ำก็ยังแรงอยู่ แต่พอใช้ไปนานๆ เข้า ตะไคร่ก็จะไปกองหรืออุดตันอยู่ที่ใดที่หนึ่งของสาย ทำให้น้ำไหลไม่แรง หลอดเลือดเราก็เช่นกัน พอน้ำตาลเกาะเยอะๆ ก็ทำให้เลือดเราสูบฉีดไม่ดีพอ หรือไปอุดตันจนทำให้หลอดเลือดตีบแล้วเลือดไม่ไหล  พอเลือดไหลเวียนช้า หัวใจก็ต้องเพิ่มแรงดันเพื่อให้เลือดไหลไปถึงประสาทส่วนต่างๆ เช่น ตา ปลายมือ หรือปลายเท้า หัวใจก็ต้องทำงานหนักขึ้นด้วย 

         นี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม? คนเป็นเบาหวานจึงไม่ค่อยมีความรู้สึกตรงปลายเท้า ปลายมือ เพราะเลือดไปเลี้ยงไม่ถึงนั่นเอง พอไปเหยียบอะไรเป็นแผลเข้า กว่าจะรู้อีกทีเลือดก็ออกแล้ว เพราะประสาทสัมผัสส่วนปลายใช้งานไม่ได้ เลือดไม่ไปเลี้ยงพอเลือดไปเลี้ยงไม่ถึง แผลก็เลยหายยาก พอปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบรักษา นานๆ เข้าเนื้อก็เน่าจนต้องตัดทิ้ง[ads]

           หากการอุดตันเกิดในเส้นเลือดใหญ่ที่ไปเลี้ยงขา สมัยก่อนเวลารักษาแพทย์ต้องผ่าตัดเปิดแผลใหญ่ที่ขา เพื่อตรวจดูว่าเส้นเลือดที่อุดตันอยู่ตรงไหน และใช้เวลาในการพักฟื้นนาน แต่เทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น เพราะสามารถรักษาได้ด้วยการสอดสายสวนเข้าไปในเส้นเลือดจากต้นขาได้ แพทย์จะสอดสายสวนไปเรื่อยๆ จนเจอจุดที่ตีบหรือตัน หลังจากนั้นแพทย์จะใช้บอลลูนเข้าไปขยายหลอดเลือดให้เป็นอุโมงค์ค้างไว้ เลือดก็จะกลับมาไหลเวียนได้ดังเดิม พอเลือดกลับมาไหลเวียนได้ตามปกติ แพทย์ก็จะทำการรักษาแผลที่เท้าต่ออีกที ทำให้แผลหายไวขึ้น นี่คือเทคนิคใหม่ที่คิดค้นกันขึ้นมา เพื่อให้ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานไม่ต้องโดนตัดขานั่นเองครับ

             หากสังเกตว่ามีอาการเหนื่อย เพลีย เป็นแผลเรื้อรัง ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะตอนกลางคืน หรือมีสัญญาณเตือนอื่นๆ ที่บ่งบอกว่าเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ควรมาตรวจคัดกรองโรคเบาหวานกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อการดูแลหรือรักษาที่ถูกต้องต่อไป

ขอขอบคุณที่มาจาก: Ram hosp