เชื่อ ว่าหลายคนเคยเจอสถานการณ์คล้ายๆกับแบบนี้ มื้อนัดเพื่อนทานข้าวก็มีเพื่อนอยู่บางประเภท ที่จะบอกว่าให้ออกก่อน แต่จริงๆแล้ว การหารบิลกันในหมู่เพื่อนหลังจากออกไปกินข้าวสังสรรค์กัน นับเป็นเรื่องปกติที่ควรทำกันอยู่แล้ว แต่เรื่องราวต่อไปนี้เป็นการกระทำ ที่เพื่อนๆไม่ค่อยจะรู้สึกดีเท่าไหร่ เพื่อนนัดกันกินข้าว เจอคนหัวหมอยื่นคูปองส่วนลดให้ แต่ไม่ออกตังค์
กรณีที่เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ หยิบยกมารายงานเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 เมื่อชายคนหนึ่งจากเมืองไทเป ของไต้หวัน ออกมาระบายความคับข้องใจผ่านเฟซบุ๊ก หลังออกไปทานอาหารร่วมกันกับแก๊งเพื่อนอีก 4 คน แต่แล้วเมื่อถึงตอนที่ต้องจ่ายค่าอาหาร เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มกับควักคูปองส่วนลดออกมา บอกจะขอใช้ส่วนลดนี้โดยที่ตัวเองไม่ขอจ่ายเงินเพิ่มเติมใด ๆ
ชายคนดังกล่าวเผยว่า ค่าอาหารมื้อนั้นคิดเป็นเงิน 2,500 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 2,800 บาท) ซึ่งเมื่อพวกเขามากัน 5 คน ก็ควรหารจ่ายกันคนละ 500 ดอลลาร์ไต้หวัน แต่กลับมีคนหนึ่งบอกว่าตัวเองมีคูปองส่วนลดค่าอาหาร 30% จึงจะขอใช้คูปองดังกล่าวแทนการออกเงินในส่วนของตัวเอง
ทั้งนี้ เมื่อลดค่าอาหารไป ทำให้ยอดรวมเหลือ 1,750 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 1,960 บาท) เพื่อนคนที่ใช้คูปองยืนยันว่าให้หารเงินส่วนที่เหลือกัน 4 คน ซึ่งหมายถึงคนอื่น ๆ ในกลุ่มจะต้องจ่ายเงินคนละ 437.50 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 490 บาท)
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ชายเจ้าของเรื่องรู้สึกไม่พอใจ ขณะที่ชาวเน็ตเองก็เข้ามาถกเถียงกันในเรื่องนี้ โดยบางคนมองว่าไม่ควรเชิญเพื่อนคนนี้มาร่วมมื้ออาหารอีกในอนาคต เพราะไม่โอเคเลยที่เขาจะเอาเปรียบคนอื่น ๆ เช่นนี้
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่มองว่าสิ่งที่เพื่อนคนนี้ทำไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะค่าอาหารมื้อนั้นก็ถูกลดราคาไปแล้ว แถมส่วนที่ทุกคนต้องจ่ายก็ลดน้อยลงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตอีกรายมองว่า ถ้าตัวเองเป็นเพื่อนคนนั้นคงจะไม่ใช่คูปองต่อหน้าทุก ๆ คนแบบนี้ แต่คงจะขอเก็บรวบรวมเงินจากทุก ๆ คนมาก่อน แล้วค่อยนำคูปองส่วนลดไปใช้ที่หน้าเคาน์เตอร์แทน
ขอขอบคุณที่มาจาก: worldofbuzz
