New TOEIC 2020 เปลี่ยนทั้งแนวข้อสอบ ทั้งค่าสอบ

          เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังจะไปสอบ TOEIC  หรอกำลังติวเพื่อที่จะไปสอบวันนี้เรานำรีวิวจากสมาชิกพันทิปท่านหนึ่งได้มาแบ่งบันประสบการณ์การสอบให้เราได้ดู ซึ่ง New TOEIC 2020 เปลี่ยนทั้งแนวข้อสอบ ทั้งราคาค่าสอบ เป็นเช่นไรไปชมเจ้าของกระทู้เล่ากันเลยจ้า 

          พึ่งมีโอกาสได้สอบ New TOEIC 2020 ที่เป็นข้อสอบใหม่ที่เปลี่ยนไปเมื่อตอนต้นเดือนมกราคม เพราะผลเก่ามันผ่านไปสองปีแล้ว 55555 วันนี้เลยอยากมารีวิวข้อสอบใหม่ ให้ทุกคนที่มีความคิดอยากจะสอบ TOEIC ได้ลองอ่านและเตรียมตัวก่อนไปสอบ ผมใช้เวลาเตรียมตัว 5 วัน และ ฝึกทำสอบในยูทูบ หากใครสนใจจะลองเซิทดูมาลองทำเป็นแนวทางคร่าวๆ ได้ ข้อสอบ Listening แบ่งเป็น 4 part 100 ข้อ

           Part 1 Photograph จาก 10 ข้อ เหลือ 6 ข้อ  พาทนี้ก็คล้ายๆของ TOEIC เก่า แต่แค่ลดจาก 10 ข้อเหลือ 6 ข้อ ส่วนตัวที่เคยทำมา พาทนี้จะสามารถหลอกได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ประธาน กริยา กรรม ต้องฟังดีๆ เท่าที่ลองสอบมาทั้งสองรอบ (แบบเก่าและแบบใหม่) จะมีช้อยหลอกๆทำนองว่า รูปภาพ “กำลัง” แขวนอยู่บนวอลเปเปอร์ แต่ในรูปที่ให้มาคือมันติดไว้อยู่แล้วไง ไม่ได้กำลังติด มันจะหลอกๆประมาณนี้

           Part 2 Question-Response จาก 30 ข้อ เหลือ 25 ข้อ พาทนี้ทั้งคำถามและคำตอบจะไม่มีเขียนในกระดาษคำถาม ต้องฟังเอาแล้วตอบอย่างเดียวพาทนี้เท่าที่ดูก็ไมได้แตกต่างจากข้อสอบเก่าเท่าไหร่ ส่วนมากคำตอบของคำถามจะไม่จำเป็นต้องตอบตรงคำถามเป้ะๆ เช่น ถามว่าวันนี้พวกเราจะไปกินข้าวกลางวันที่ไหนดี คำตอบไม่จำเป็นต้องเป็น ไปกินร้านอาหารข้างนอกกันแกร แต่อาจจะบอกว่า ชั้นอิ่มแล้ว ไม่ไปดีกว่า อะไรแบบนี้ (สมมติ) อันนี้บทสนทนาทำได้เหมือนการคุยจริงๆ มากขึ้น เพราะบางทีไม่จำเป็นต้องตอบตรงคำถาม ก็ถือว่าเป็นการตอบคำถามแล้ว 

           Part 3 Short Conversation จาก 30 ข้อ กลายเป็น 39 ข้อ พาทนี้เป็นบทสนทนาโต้ตอบกันระหว่างคนสองคนเป็นต้นไป สิ่งที่แตกต่างจากข้อสอบเดิมคือ มันจะมีบางข้อที่มีบทสนทนาระหว่าง คน 3 คน ต้องฟังดีๆ ว่าใครเป็นใคร คำถามบางทีก็จะลวงในตัวด้วย เช่น ข้อสอบถามว่า "ผู้ชาย"คนนี้มีความเห็นว่าอย่างไร แต่ในบทสนทนาตอนแรก ผู้หญิง อาจจะออกความคิดเห็นก่อน จากนั้นผู้ชายอีกคนถึงค่อยออกความเห็นตาม ก็ต้องเลือกฝนคำตอบความเห็นของผู้ชาย

           เทคนิคส่วนตัวสำหรับพาทนี้ คือ จะฝนทันทีระหว่างที่ฟังบทสนทนาอยู่ (ห้ามกาในกระดาษคำถามนะ) แล้วพอฟังจบ เราก็ไปอ่านคำถามกับคำตอบของข้อต่อไปรอเลย เพราะเคยลองฟังๆๆอย่างเดียวแล้วค่อยกาทีหลังตอนลองฝึกทำข้อสอบ คือมันก็ฟังออกหมด แต่พอจะมากาคือลืม งงไปหมด สมองปลาทองมาก เพราะฉะนั้นแนะนำคน type เดียวกับผมว่า รู้คำตอบก็กาเลย แต่ถ้าบางคนถนัดฟังอย่างเดียวพร้อมมโนภาพตามแล้วกาทีหลังก็ได้ แต่ผมไม่สามารถจีงงงงง อันนี้ก็แล้วแต่เทคนิคใครเทคนิคมัน

           Part 4 Short Talks 30 ข้อ เหมือนเดิม พาทนี้เป็นคนพูดคนเดียวเหงาๆ แนว advertisement หรือ พนักงานพาทัวร์ หรือ voice message ต่างๆนาๆ ที่เปลี่ยนไปจากเดิมคือ เมื่อก่อนข้อสอบพาทนี้จะพูดอย่างเดียว เราก็ตอบคำถาม แต่เดี๋ยวนี้คือมีกราฟ หรือ รูปภาพ ให้ดู (ไม่ใช่ทุกข้อ แค่บางข้อ) เช่น กราฟผลตอบแทนของบริษัทเป็นไตรมาส หรือพวก Invoice แล้วมีคนโทรมา complain ว่าของหาย ของไม่ครบ หรืออยากจะสั่งเพิ่ม หรืออะไรก็ตามแต่ ที่เจอบ่อยๆ คือ โจทย์ให้ป้ายที่บอกราคาสินค้า แล้วโทรศัพท์โทรมาว่าขอสั่งอันนี้สามอัน อันนี้สองอัน คำถามคือ สรุปต้องจ่ายทั้งหมดเท่าไหร่ ก็ต้องเอามาคูณมาบวก อะไรประมาณนี้ แต่ตัวเลขไม่ได้ยากอะไรแค่ต้องมีสติ
เทคนิคส่วนตัวในพาทนี้เหมือนกับพาท 3 เลย

ข้อสอบ Reading แบ่งเป็น 3 พาท 100 ข้อ 75 นาที

           Part 5 Incomplete Sentences จาก 40 ข้อ เหลือ 30 ข้อ พาทนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมเลย แนวข้อสอบส่วนใหญ่จะเน้น Vocab + Grammar ที่ออกบ่อยๆคือ Part of speech ข้อสอบพาทนี้ถ้าอ่านทวนแกรมม่า จะทำได้ไวมาก ควรไปอ่านทวนมาก่อนเล็กน้อย แล้วมันจะดูแว้บเดียวแล้วตอบได้เลย ต้องรีบทำเพราะพาท 7 ใช้เวลามาก

           Part 6 Text Completion จาก 12 ข้อ เป็น 16 ข้อ ข้อสอบจะให้เป็น passage มาแล้วให้เติมคำในช่องว่าง สิ่งที่ต่างไปจากเดิมคือ ใน passage นึง จะมีประมาณหนึ่งข้อที่ให้เติมคำในช่องว่างเป็นประโยคยาวๆ ให้เหมาะสมกับบริบทรอบๆ ประโยค นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิม

           Part 7 Reading Comprehension 54 ข้อ สิ่งที่ทำให้พาทนี้ยากมากคือเวลาาาาาา เพราะพาทนี้ใช้เวลาทำนานมากกกกกกกกกกกกก เพราะข้อความมันเยอะ ตัวข้อสอบจะแบ่งเป็น Single passage (ซึงมีความทันสมัยมากขึ้น เพราะบางทีจะให้อ่านแชทในมือถือ, ในคอมฯ เป็นต้น) , Double passage แล้วที่เพิ่มเข้ามาในข้อสอบใหม่คือ Triple passage ความเห็นส่วนตัวคือข้อความมันไม่ได้ยาก เข้าใจได้ง่าย แต่ที่ยากจริงๆ คือเวลา พาทนี้ไม่ควรอ่านแบบทั้งหมด ต้องใช้ความสามารถในการสแกนหาคำตอบในตัวคำถาม อันนี้แนะนำให้ลองไปฝึกทำมาก่อน จะได้รู้ว่าอ่านด้วยความเร็วเท่านี้ จะทันเวลามั้ย ยิ่งข้อหลังๆ จะยิ่งมีความยาว เป็นอีเมลล์ตอบกลับไปมา สับสนและเวียนหัว ตรงนี้ต้องรีบๆหาเทคนิคส่วนตัวของนี่เลยคือ อ่านคำถามก่อน จะได้รู้ว่าต้องไปเน้นหาคำตอบที่จุดไหน แล้วอ่านแบบสแกนๆ ให้รู้เนื้อหาคร่าวๆ แล้วรีบตอบคำถาม ทั้งหมดน่าจะเท่านี้ สำหรับ New TOEIC 2020

           ระดับความยากนั้น ผมคิดว่ามันกระโดดขึ้นมาอีกขั้นนึง (อาจเพราะยังไม่ชินกับข้อสอบใหม่มั้ง อันนี้แล้วแต่ความเห็นแต่ละคนเนาะ) เพราะเมื่อเทียบกับข้อสอบเก่า เช่นในพาท 4 ปกติจะพูดอย่างเดียว แต่เดี๋ยวนี้มีรูปภาพ แล้วก็ต้องวิเคราะห์อีก คำตอบจะไม่พูดตรงตัว เน้นว่าต้องเข้าใจรูปประโยคจริงๆ ถึงจะสามารถตอบได้ แต่ระดับการใช้ภาษาของข้อสอบยังคงเดิม ไม่ต้องกลัวไป 55555+ แถม passage ในพาท 7 ยาวมากกกกก เมื่อก่อนแค่ 2 passage ก็กินเวลาแล้ว มา ตอนนี้ ข้อท้ายๆ จะมี 3 passage ซึ่งอาจจะมาในรูปแบบ passage แรก เป็นประกาศอะไรซักอย่าง ส่วน passage 2 และ 3 จะเป็นอีเมลล์โต้ตอบกัน เข้าใจว่าทาง ets อาจจะวัดความสามารถในการเข้าใจสารที่ต้องการจะสื่อของpassageต่างๆ ในเวลาที่จำกัดมากกว่าจะเข้าใจเนื้อหาทั้งหมด เพราะดูแล้วยังไงก็ไม่ทันเวลาแน่ๆ ถ้าจะให้เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง

           การอ่านหนังสือแนะนำว่า ควรอ่านหนังสือติว TOEIC ซักเล่มที่สอนแกรมม่าก่อนพร้อมข้อสอบ เล่มไหนก็ได้ หรือดูรีวิวในเน็ตก็ได้ เพราะแกรมม่าพวกนี้จะช่วยในเรื่องการทำข้อสอบพาท 5 มันจะไปไวมาก พอทำไว จะได้มีเวลาทำพาท 7 แล้วก็ลองทำข้อสอบNew TOEIC 2020 ในยูทูบดู จะได้กะเวลาถูกๆ ย้ำอีกครั้งว่ามันใช้เวลาจริงๆ ค่าสอบก็ขึ้น จาก 1,500 เป็น 1,800  หนังสือที่แนะนำที่ผมเคยลองๆ ดูแล้วค่อนข้างมีประโยชน์ (แต่อ่านไม่จบ 5555) ก็จะเป็น 600 Essential Words for The TOEIC by Barron : เล่มนี้จะแบ่งคำศัพท์เป็นหมวดหมู่ เช่น job interview, business, etc. ที่เป็นหมวดหัวข้อที่เจอบ่อยใน TOEIC ไว้เพิ่มคลังคำศัพท์ และมีข้อสอบในแต่ละบทให้ทำ ซึ่งเป็นข้อสอบที่รวมคำพวกนี้อยู่ แนะนำให้อ่านถ้ามีเวลามากพอ (เล่มนี้ผมอ่านไม่จบ แต่อ่านได้ประมาณ 15 chapter จาก 40 กว่าๆ มั้งแล้วมีประโยชน์จริง +++++ เลย)

           Tactics for TOEIC: Listening and Reading Test : แม้ว่าตัวข้อสอบจะยังเป็นข้อสอบเก่า (ยังไม่ใช่ New TOEIC 2020) แต่พวกแนวข้อสอบ เทคนิคการล่อหลอก ก็ยังใช้ได้อยู่ และมีความเหมือนจริง ไม่อยากให้พลาดเหมือนกันสำหรับตัวนี้ 

           หนังสือTOEIC แกรมม่าดีๆ ซักอัน : อันนี้ผมไม่ลงรายละเอียดหนังสือเฉพาะเจาะจง แต่ผมแนะนำให้หามาดู เพราะจะช่วยมากในเรื่องข้อสอบ Reading ทั้งเรื่อง part of speech ( เช่น adv, adj ทำหน้าที่อะไร วางตรงไหน ) และแกรมม่าอื่นๆที่เห็นบ้างประปรายในข้อสอบ แต่ถ้าที่ผมอ่านมาก่อนสอบก็คือ TOEIC complete guide book ฉบับข้อสอบใหม่ 500 ข้อ (ไม่ใช่ New TOEIC 2020) ของผู้แต่ง เพ็ญใจ สินเสมอสุข ส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างโอเคเลย กับการอ่านเพื่อฟื้นคืนแกรมม่าที่หายไป 5555555

           ขอย้ำอีกทีเลยว่า ถ้าอยากได้คะแนนดีๆ ต่อให้เก่งแค่ไหน ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่า ยังไงก็ควรลองทำข้อสอบดูก่อน หนึ่ง ถึง สองชุด ก็ยังดี เพราะสิ่งที่ปราบเซียนจริงๆ ในความเห็นผมคือ "เวลา" ครับ ผมเชื่อว่าถ้าให้เวลากับ Reading ซัก 2 ชั่วโมง คะแนน average ทั้งประเทศออกมาสูงกว่านี้แน่ครับ แต่นี่ได้แค่ 75 นาที ถ้าได้มีโอกาสลองข้อสอบก่อน มันจะกะเวลาถูกว่า อ่านด้วยความเร็วประมาณนี้ มันจะทันมั้ย จะเข้าใจรึเปล่า เพราะค่าสอบก็ไม่ใช่ 100 200 เด้ออ้ายเด้อออออ

ขอขอบคุณที่มาจาก: Mad Scientist