บัตรคนจน เดือนมกราคม 2564 เพิ่มเงิน 500 บาท

          ในปี 2564 ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังคงได้รับวงเงินช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมกราคม 2564 จะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 500 บาท จากโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 พร้อมทั้งเงินช่วยเหลืออื่น ๆ เหมือนเดิม แต่เงินจะโอนเข้าบัตรวันไหนบ้าง มาเช็กกันเลย

วันที่ 1 มกราคม 2564

วงเงินซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค คนละ 700-800 บาท/เดือน

          ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับการเพิ่มวงเงินช่วยเหลือเป็นค่าซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าฯ จำนวน 500 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2564 (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้) โดยจะได้รับเงินดังนี้

-กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ปกติได้รับ 300 บาท/เดือน เพิ่มมาเป็น 800 บาท/เดือน 

-กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ปกติได้รับ 200 บาท/เดือน เพิ่มมาเป็น 700 บาท/เดือน 

-ค่ารถโดยสารสาธารณะ   ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้) แบ่งเป็น

-ค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า 500 บาท/เดือน (ใช้ชำระค่าโดยสารด้วยระบบ e-Ticket เฉพาะผู้ถือบัตรใน 7 จังหวัด คือ กทม., นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร และนครปฐม)

-ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาท/เดือน

-ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาท/เดือน

-วงเงินซื้อก๊าซหุงต้ม 45 บาท/3 เดือน ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ทุกคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)      ใช้สำหรับเป็นส่วนลดในการซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการที่ได้รับเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่องรูดบัตร EDC) โดยเงินจะเข้าบัตรทุก 3 เดือน แต่หากไม่ได้ใช้สิทธิ์ภายใน 3 เดือน จะถูกตัดยอดเงินไป 

วันที่ 18 มกราคม 2564

-ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 230 บาท/เดือน/ครัวเรือน

-เป็นการต่ออายุจากมาตรการเดิม โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 230 บาท/เดือน/ครัวเรือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 – กันยายน 2564

-กรณีใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน ให้ใช้สิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการปัจจุบัน

-กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย/เดือน ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้สิทธิ์ตามมาตรการนี้ ในวงเงิน 230 บาท/ครัวเรือน/เดือน หากใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าไฟฟ้าทั้งหมด 

 ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย

วิธีลงทะเบียน

-ผู้ใช้ไฟฟ้าใน กทม., สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การไฟฟ้านครหลวง  

-ผู้ใช้ไฟฟ้าในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  

ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน/ครัวเรือน

ต่ออายุให้จากมาตรการเดิม โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/เดือน/ครัวเรือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 – กันยายน 2564 

ทั้งนี้ หากผู้ถือบัตรคนจนใช้น้ำประปาเกินวงเงิน 100 บาท/ครัวเรือน/เดือน จะต้องเป็นผู้จ่ายค่าน้ำประปาเองทั้งหมด 

ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เรียบร้อย

วิธีลงทะเบียน 

-ผู้ใช้ประปาใน กทม., สมุทรปราการ, นนทบุรี ลงทะเบียนที่การประปานครหลวง  

-ผู้ใช้ประปาในต่างจังหวัด ลงทะเบียนที่การประปาส่วนภูมิภาค[ads]

เงินช่วยเหลือผู้พิการ

ผู้มีสิทธิ์รับเงิน : ตามปกติผู้พิการที่ขึ้นทะเบียนจะได้รับการโอนเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท/เดือน เข้าบัญชีธนาคาร อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นไป ครม. มีมติให้เพิ่มเบี้ยความพิการอีก 200 บาท เป็น 1,000 บาท/เดือน สำหรับผู้พิการที่อายุ 18 ปีขึ้นไป และมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะแบ่งจ่ายดังนี้

800 บาท : โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเหมือนเดิม ทุกวันที่ 10 ของเดือน เงินเพิ่มเติมอีก 200 บาท จากกองทุนประชารัฐ : จ่ายเข้ากระเป๋าเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งคาดว่าเงินจะเข้าบัญชีประมาณวันที่ 22 มกราคม อย่างไรก็ตาม วัน-เวลาที่แน่นอน กรมบัญชีกลางจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอีกครั้

         ทั้งนี้ วันที่ระบุดังกล่าวเป็นวันเริ่มต้นโอนเงินของแต่ละรายการ ซึ่งบางคนอาจจะได้รับเงินหลังจากนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลการจ่ายเงินได้ที่ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 0 2109 2345 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น. หรือที่กรมบัญชีกลาง โทร. 0 2270 6400 ในวัน-เวลาราชการ

ขอขอบคุณที่มาจาก: เฟซบุ๊ก กรมบัญชีกลาง The Comptroller General’s Departmentเฟซบุ๊ก สถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station