เผยวิธีรีดน้ำหนักของ นักมวย ก่อนขึ้นสังเวียนในเวลาสั้นๆ

       เทคนิคในการลดน้ำหนักก่อนขึ้นชกของนักมวยมีมากมายหลายวิธี โดยสมาชิกพันทิปชื่อคุณ Gojilogo ได้ตั้งกระทู้วิธีรีดน้ำหนักของ "นักมวย" ก่อนขึ้นชกเค้าทำยังไงกันบ้าง? วันนี้เราได้รวบรวมคำตอบมาให้เพื่อนๆได้คลายข้อสงสัยกัน พร้อมแล้วไปติดตามพร้อมๆ กันเลยครับ

เจิ่มจากความคิดเห็นที่ 1  เท่าที่ผมรู้ ไม่กินน้ำ แต่ใช้อมน้ำแข็งเอาให้ละลายในปากในอดีต จำเจ้าโอ๋ ศิริมงคล สิงห์วังชา แชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวต ของเราได้มั้ยครับ ตอนปี 1997 ไปป้องกันที่ญี่ปุ่น กับ โจอิชิโร่ ทัสสึโยชิ เจ้าโอ๋น้ำหนักเกินเยอะ รีดกันสุดฤทธิ์ จนชั่งผ่าน พอถึงวันชก เจ้าโอ๋มีอาการอ่อนล้าอย่างเหนได้ชัด แก้มตอบ ไม่มีแรง แพ้น๊อค เสียเข็มขัด ในยก 7 ( วิทยาศาสตร์การกีฬาเรื่องรีดน้ำหนักของเรา ยังสู้ของเค้าประเทศที่เปนเมืองมวยไม่ได้ ) 

ความคิดเห็นที่ 2  ตรงคำถามรึเปล่าไม่รู้ นะ ที่เห็นวิ่งรีดนัำหนัก ก็มี มวย ยูโด มวยปล้ำ เทควันโดสมัยนี้ไม่รู้ครับแต่ถ้าสัก 20 กว่าปีก่อนที่เล่นกีฬามา ทำแบบนี้ครับ

        – ใส่เสื้อผ้าร่ม ๆ วิ่ง ๆ ออกกำลังกาย  ให้เหงื่อออก ไปเรื่อง ๆ จนลดน้ำหนักตามต้องการ 

        – ถ้าวิ่งไม่ไหวก็ซาวหน้า ไม่มีก็ผ้าหนาคลุมถึงคอ นั่งบนเก้าอี้ใส่หม้อหุงข้าวต้มน้ำไว้ด้านล่าง

        – ยาถ่าย ยาขับปัสสาวะ แผนโบราณก็ ระดมพล ในกีฬาแห่งชาติสมัยก่อนไม่ค่อยตรวจโด็ปใช้ยากันทั่วไป

        – แรก ๆ ช่างน้ำหนักเช้า แข่งสาย ๆ รีดน้ำหนักมาก ๆ เพลียแข่งไม่ไหว แต่ต่อมา ช่างน้ำหนักเย็นแข่งวันรุ่งขึ้น สบาย ๆ

        – อย่างนักกีฬามวยปล้ำ รีดน้ำหนัก 10 กว่า โล แล้วแข่งได้เหรียญทองกีฬาแห่งชาติก็มีนะครับ(ของจ.ศรีสะเกษ)วิทยาศาสตร์การกีฬาครับ

        – เคยรู้ไหมครับ อันที่ทรมาณกว่าลดน้ำหนัก คือ ขึ้นน้ำหนัก ลดนี่ ขี้ได้ เยี่ยวได้ แต่ขึ้นนำ้หนัก ขี้ เยี่ยวไม่ได้ ต้องอั้นอย่างเดียว

        สมมุติต้องขึ้นน้ำหนัก 5 โล นี่น้ำเต็มขวด 1.5 ลิตร ประมาณ 3 ขวด

เรื่องกีฬาไม่มีใครอยากลด หรือ ขึ้นน้ำหนักหรอกครับ ทรมาณเปล่า ๆ  แต่เพราะลดแล้วมันได้เปรียบลงไปเล่นรุ่นเล็ก แต่เราสูงยาวกว่า ได้เปรียบ
แน่นอน หรือย้ายรุ่นหนีตัวที่ได้เหรียญทอง เราได้เหรียญเงิน ย้ายรุ่นลงไปเอาเหรียญทองในรุ่นน้อยกว่า

ความคิดเห็นที่ 3 พอดีบ้านเราเป็นค่ายมวยมาก่อน ช่วงก่อนชกประมาณ 5 วันพี่ชายเราจะเริ่มลดน้ำหนักโดยที่แต่ละครั้งจะลดตามกำหนดที่ตกลงกันระหว่างคู่ชก ประมาณ 5 กิโลกรัม บางครั้ง 7 กิโลกรัมก้อมี  พี่ชายเราจะเริ่มกินของที่ไม่มีไขมันมากนะเช่น เนื้อ ปลา อะไรประมาณพ่อเราจะเป็นคนซื้อส่วนเราก้อทำตามที่พ่อสั่งให้พี่กิน แต่พี่กินไม่ได้เยอะหรอกมันไม่มันอารมณ์กินเท่าไรมันเหนื่อย พี่เราต้องตื่นหกโมงเช้าวิ่งตอนเช้าประมาณ 10 โล

เราเคยปั่นจักรยานเป็นเพื่อนพี่ไปเลยรู้ จากนั้นจะกลับมาซ้อมวอร์มนิดหน่อย นวดตัว อาบน้ำกินข้าวนอน แล้วบ่ายเเดดแรงก้อจะใส่ชุดคลุมใส่หมวกออกไปวิ่งอันนี้ไม่ออกไปด้วยกลัวดำ555  แต่มันไปสักพักมันก้อกลับมาแหละ เหงื่อนี้แบบโอ้ไปเล่นน้ำมารึไง เราก้อต้องล้างชุดคลุมให้มัน  พ่อกะพี่จะชั่งน้ำหนักกันตลอดเเล้วดูว่าจะให้กินอะไรจะลดเพิ่มไหมหรือค่อยไปลดเอาที่หน้าตาชั่งจะดีกว่าอะไรประมาณนี้  

พอลดผ่านเกณฑ์ตาชั่งของเวทีก้อกลับมาพักคราวนี้แหละคือช่วงที่ร่างกายจะฟื้นจะโต ปล่อยให้โตเต็มที่เพื่อที่จะได้เปรียบคู่ชก ลดน้อยไปร่างกายมันจะไม่พองพ่อบอกมา พอต่อยเสร็จมันก้อยังไม่ค่อยกินไรเลยนะมันไม่ค่อยหิว ช่วงก่อนชกกับหลังชกวันนึง พี่จะนอนไม่หลับไม่รุว่าตื่นเต้นหรืออะไร แต่พอวันที่สองมันกินแหลกกกก ขึ้นกลัมาเหมือนเดิม5555 ปล.พี่เราปัจจุบันต่อยอยู่ราชดำเนิน ลุมพินี เราเคยเเอบพ่อให้พี่กินน้ำอัดลมเลย 555 มันอยากกินกลัวพ่อเห็น

ความคิดเห็นที่ 4 รีดช่วงเตรียมตัวซ้อมก่อนแข่งก็คุมอาหาร ออกกำลังกายหนักๆ น้ำหนักก็ค่อยๆลงแต่ถ้าชั่งก่อนชกจริงไม่ผ่านก็ต้องรีดด่วน โดยน้ำคือส่วนที่รีดออกง่ายที่สุด เยอะที่สุด ไวที่สุดคิดง่ายๆ ร่างกายคนปกติฉี่รอบนึงถ้าเต็มๆก็ลดลงได้ราว 3-4 ขีดแล้ว จับถ่ายหนักให้หมดไส้หมดพุงก็อีกไม่ต่ำกว่า 2-3 ขีดยังไม่พอก็รีดเอาจากเหงื่อ ไปวิ่งใส่ชุดคลุมทั้งตัว อบซาวน่า ว่ากันไปตามสะดวก หรือโหดหน่อยก็ยาขับปัสสาวะพอชั่งผ่านก็คืนน้ำให้ร่างกาย จิบน้ำกินอาหารรัวๆ เจาะน้ำเกลือแล้วนอนพักไปเลย

        สรุปได้ว่า เร็วที่สุดคือคุมอาหารแล้ววิ่งคุมอาหารจะสำคัญที่สุดต่อน้ำหนัก มีหลายสูตร แต่ช่วงแรกเน้นลดคาร์โบไฮเดรตให้มากๆหน่อย แล้วค่อยกลับมากินอีกครั้งตอนใกล้แข่ง เพราะต้องใช้พลังแบบกระชั้นชิด คาร์โบไฮเดรตเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับรูปแบบการใช้พลังงานแบบนี้

เรียบเรียงโดย : tkvariety.com ขอขอบคุณที่มา : Gojilogo