เตือนภัย ไปเที่ยวญี่ปุ่น-เกาหลี โดนเคาะห้องกลางดึกอย่าเปิด 

       ทางเพจ Office Break ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวเตือนภัย หลังจากที่ไปเที่ยว ญี่ปุ่น-เกาหลีแล้วเจอเคาะห้องกลางดึก เกือบโดนมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาขู่กรรโชกทรัพย์โดยจากโพสต์นั้นได้ระบุรายละเอียดว่า 

แชร์ประสบการณ์โดนเคาะห้องพักยามวิกาล  Knock Knock !! Shock Shock !!!

เรื่องที่ 1 : โอซาก้า โดนเคาะห้องจ้า เลยแกล้งหลับ

      เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเราเอง ก็คือไปเที่ยวญี่ปุ่นตามปกตินั่นแหละ และจอง Airbnb เหมือนทุกครั้ง ครั้งนี้เราไปกับแม่แค่สองคน และห้องพักที่จองก็อยู่ในย่านนัมบะ คิดว่าผู้คนจะพลุกพล่าน แต่มันกลับเป็นนัมบะในย่านที่พักอาศัย ไม่ใช่แถวตลาด Dotonbori ก็เลยจะเงียบ ๆ หน่อย ตอนเข้าพักก็ไม่ได้เจอเจ้าของห้อง เพราะเค้าจะให้รหัสกุญแจ กับที่ซ่อนกุญแจมา ก็ Self Check-in กันไป บรรยากาศก็จะไพรเวท ๆ ไม่ได้คึกคักอย่างที่คิดไว้ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร พอตกกลางคืน หลังกลับจากไปเที่ยวมาทั้งวัน เรากับแม่ก็เข้านอนประมาณเที่ยงคืน รู้สึกหลับไปได้สักพัก เราก็ได้ยินเสียงเคาะประตู แบบไม่ดังมาก แต่เคาะเรื่อย ๆ จนเราตื่น สะลึมสะลือหยิบมือถือมาดูคือประมาณตีสอง โชคดีที่นอนเปิดไฟ ไม่งั้นคือต้องคิดถึงเรื่องผีแน่ ๆ แต่คิดว่าน่าจะเป็นคนแหละ ไม่รู้เค้าเคาะห้องผิดหรืออะไร แล้วแว้บแรกก็คิดว่าหรือเค้าเคาะห้องข้าง ๆ ไม่ใช่ห้องเรา แต่พอตั้งใจฟังดี ๆ เสียงมันมาจากประตูห้องเรานี่แหละ มันใกล้มาก และเราก็ไม่กล้าพอที่จะเดินไปส่องตาแมวที่ประตูดู เนื่องจากเคยดูคลิปที่มีคนไปส่องตาแมวดูที่ประเทศจีน แล้วเป็นใครไม่รู้มายืนเซ ๆ ผมยาว ๆ อยู่หน้าห้อง คือหลอนมาก ! ภาพนั้นติดตามาก ด้วยความที่เราเป็นคนกล้าหาญแหละ คืนนั้นเราเลยทำหูทวนลม แล้วแกล้งหลับไป !! ตอนเช้าตื่นมาคุยกับแม่ แม่บอกได้ยินเหมือนกัน แต่แม่ก็ไม่ลุกไปดู สุดท้ายแล้วเลยไม่รู้ว่าใครมาเคาะ เราเลยไปหาอ่านในกูเกิลดู ว่าเคยมีคนโดนเหมือนกันมั้ย ปรากฏว่าเคยมีข่าวสถานทูตไทยประจำญี่ปุ่น ออกมาเตือนนักท่องเที่ยวอย่าเปิดประตูห้องพักในยามวิกาล เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวไทยเคยโดนคนมาเคาะห้องที่โรงแรม ขู่กรรโชกเอาเงิน จนเค้าต้องโทรให้เจ้าหน้าที่โรงแรมและตำรวจมาช่วย อ่านแล้วคือหลอนไปหลายวัน พอกลับมาเล่าให้เพื่อนฟัง ก็มีเพื่อนที่เคยโดนเหมือนกัน นอน Airbnb เหมือนกัน แต่เป็นเสียงทุบกำแพงห้องตึง ๆๆ แบบดังมาก เพื่อนกลัวมาก ด้วยความที่เป็นผู้หญิงอยู่ในห้องคนเดียวตอนนั้น เพื่อนอีกคนลงไปเดินเล่นอยู่ นางเลยตัดสินใจเปิดประตูแล้ววิ่งลงไปรอเพื่อนข้างล่างตึกทันที ฟังแล้วก็ตกใจว่า มีคนโดนเหมือนกันด้วยนี่หว่า หรือจริง ๆ พวกเราแค่ขวัญอ่อนไปเอง แต่กันไว้ก็ดีกว่าแก้เนอะะะ

เรื่องที่ 2 : โดนอาจุมม่า มาเคาะห้องเผยแพร่ศาสนา

     อันนี้เป็นเพื่อนที่ไปเกาหลีทริปเดียวกับเรา แต่นอนอีกห้องนึง ทริปนี้ทุกคนก็นอน Airbnb อีกแล้ว แต่ด้วยความที่มาโซลทีไร ก็นอน Airbnb ที่ฮงแด ตึกเดิมทุกครั้ง เลยตกใจนิดนึงที่เพื่อนโดนคนมาเคาะห้อง เพราะเรามาพักที่นี่หลายครั้งแล้ว ไม่เคยโดนคนแปลกหน้ามาเคาะห้องเลย ยกเว้นโฮสเจ้าของห้องมาเคาะ แต่เรื่องราวของเพื่อนคือ คืนนั้นมีคนมาเคาะห้องนาง พอไปส่องตาแมวดูก็เห็นว่าไม่ใช่โฮสเจ้าของห้อง แต่กลับเป็นอาจุมม่าคนนึง ที่ดูไม่มีพิษมีภัย นางเลยเปิดประตูไปคุยด้วย แต่ป้าแกพูดภาษาเกาหลีใส่รัว ๆ ซึ่งเพื่อนเราฟังไม่ออก พอรู้ว่าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ป้าก็พยายามพูดภาษาอังกฤษใส่ แต่ฟังไม่ออกเช่นกันว่าพูดอะไร นางเลยชู ๆ หนังสือในมือ ซึ่งเพื่อนเดาว่าน่าจะเป็นไบเบิล แต่ก็ยังสื่อสารกันไม่รู้เรื่องอยู่ดี คืออะไร จะชวนไปโบสถ์วันนี้เหรอ ? หรือจะถามว่ามีไบเบิลรึยัง ? อะไรแบบนี้เหรอ ก็เลยสรุปว่าป้าแกน่าจะพยายามมาเผยแพร่ศาสนารึเปล่า แต่อาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้ โชคดีที่ป้าแกไม่ได้หวังร้ายอะไร แต่ตามหลักแล้วเราไม่ควรจะเปิดประตูให้คนแปลกหน้านะคะทุกคนนน

เรื่องที่ 3 (แถม) : เสียงเคาะกระจกจากระเบียงห้องพัก ในตุรกี

      เรื่องนี้ไม่ได้เกิดที่ญี่ปุ่นหรือเกาหลี แต่ล่าสุดเราไปตุรกีมา ก็โดนเหมือนกัน !!! ครั้งนี้เราไปกับเพื่อนรวม 4 คน ผู้หญิงล้วน เหตุการณ์เกิดที่เมือง Izmir เมืองท่าตากอากาศของตุรกี ที่พักนี้เราจองใน booking.com เป็นอพาร์ทเมนต์ที่อยู่บนเขา มีห้องนอนหลายห้อง และมีห้องรับแขก โดยทุกห้องเชื่อมกันหมด ห้องใหญ่มาก ส่วนเจ้าของบ้านก็ใจดี มาต้อนรับอย่างดีแม้เราจะเช็คอินดึก เพื่อนทุกคนเลิฟที่พักมาก ตื่นเต้นกันใหญ่ พอถ่ายสตอรี่ ถ่ายรูปอะไรเสร็จ เจ้าของที่พักกลับไป ก็เริ่มแยกย้ายกันไปอาบน้ำ ส่วนเราก็นั่งเล่นนอนเล่นกับเพื่อนอีกคนอยู่ที่ห้องรับแขก ซึ่งมีกระจกบานใหญ่ เปิดออกไปเป็นระเบียง เราก็เปิดม่านไว้ เอาไว้ดูวิวเมืองตอนกลางคืนสวย ๆ ความพีคคือ ประมาณเที่ยงคืน เรากับเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างกระจกนั้น ต่างคนต่างก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ รอจะไปอาบน้ำ จู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะอะไรสักอย่าง ดังมาก ! มันแบบรู้สึกใกล้มาก จนเราตกใจลุกจากโซฟา ออกห่างจากกระจกนั้น แล้วเพื่อนอีกสองคนที่อยู่อีกห้องนึงก็ออกมารวมตัวกัน ตอนนั้นทุกคนคือหน้าเหวอมาก เสียงมันดังมาก ดังจนผิดปกติ แล้วผู้หญิง 4 คนก็มีความรน แบบไม่มีใครเป็นที่พึ่งให้ใครได้ เลยตัดสินใจวิ่งไปล็อคประตูล็อคกระจกทุกบานของทุกห้อง แล้วก็โทร Whatsapp หาเจ้าของบ้าน นางบอกว่านางพักอยู่อีกที่นึงซึ่งไกลมาก ไม่น่ามาทัน เดี๋ยวจะส่งคนมาให้ ผ่านไปประมาณไม่ถึง 5 นาที ขณะที่ชะนีถกกันอยู่ว่ามันคือเสียงอะไร ก็มีรถตำรวจมาจ้า ทางเราก็ยังมีความแพนิกอยู่ ทุกคนคือกลัวมากว่ามันจะเหมือนในหนังมั้ย ตำรวจที่มานี่ไว้ใจได้มั้ยวะ มีความระแวงไปหมด สุดท้ายเลยตกลงกันว่า ส่งเพื่อนลงไปคุยกับตำรวจสองคน ส่วนอีกสองคนสแตนบายอยู่ข้างบนเผื่อมีอะไร และแน่นอนว่าคนที่รออยู่ข้างบน คือเราเอง5555 สรุปว่าตำรวจที่มา คือเจ้าของบ้านเรียกมาให้ แต่นางพูดอังกฤษกันไม่ได้ ก็เลยมีความงง ๆ กันหน่อยกับภาษาตุรกี แต่ทางเราก็สบายใจขึ้น สรุปคืนนั้นก็หาที่มาของเสียงนั้นไม่ได้ แต่ทุกคนคิดเหมือนกันว่ามันเหมือนเสียงเคาะกระจก ซึ่งการที่จะเคาะกระจกนั้นได้ ยูต้องปีนขึ้นมาตรงระเบียง ซึ่งระเบียงนั้นเราก็เปิดม่านไว้ แต่เราไม่เห็นว่ามีคนมาเคาะอ่ะ พูดแล้วก็ยังหลอนอยู่เลย แต่คิดว่าไม่น่าใช่ผีหรอกมั้ง คนนั่นแหละ เจ้าของบ้านเลยปลอบใจว่าอาจจะเป็นคนเมามาแกล้ง แต่ปกติแถวนั้นไม่มีนะ 

ประสบการณ์เหล่านี้ สอนให้รู้ว่า…

     1. ไม่ควรเปิดประตูห้องพักให้กับคนแปลกหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามวิกาล ถึงแม้จะดูเป็นเจ้าหน้าที่โรงแรมหรืออะไร ก็ควรโทรไปเช็คก่อน เพราะส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่โรงแรมจะไม่มาเคาะห้องตอนกลางคืนหรอก หรือจะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่มีคนอยู่ในห้องนี้จ้า หลับแล้วจ้า อะไรแบบนี้ก็ได้นะ อย่าลืมล็อคประตูด้วยล่ะ !

    2. อย่าลืมขอเบอร์โทรของเจ้าของห้องพัก หรือใครที่จะสามารถช่วยเราได้ไว้ด้วย ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

     3. เวลาไปท่องเที่ยว โดยเฉพาะต่างประเทศ ให้เตรียมใจไว้เลยว่าอาจมีเหตุไม่คาดฝันเกิดกับเราได้ อย่าคิดว่ามันจะไม่เกิด ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า ถึงแม้จะเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูงอย่างญี่ปุ่นก็เกิดได้เหมือนกัน

      4. พกผู้ชายที่พึ่งพาได้ไปด้วยก็จะดี พอเกิดเรื่องปุ๊บ รู้เลยว่าชะนีช่วยกันเองไม่ค่อยได้ ต้องตั้งสติกันอยู่นาน

     ว่าแต่เพื่อน ๆ คนไหนเคยเจอประสบการณ์โดนเคาะห้องแบบเรา ก็มาแชร์กันได้นะ อยากรู้เหมือนกันว่าคนอื่นเคยโดนแบบนี้บ้างมั้ย ???

จากความคิดเห็น

มีคนเคยโดน

     ซึ่งจากเรื่องราวดังกล่าวอาจจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวอุทาหรณ์ เตือนภัยให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ไปเที่ยวต่างประเทศ หากเจอคนมาเคาะห้องกลางดึก ก็อย่าเปิดเด็ดขาดเพราะอาจจะเป็นอันตรายได้ 

ขอขอบคุณที่มาจาก : Office Break