เตือนคนอออกกำลัง อย่าสวมหน้ากากวิ่ง ให้เว้นระยะหางจะดีกว่า

           จากสถานการณ์เช่นนี้ หลายคนที่ออกกำลังก็ต้องสวมหน้ากากอนามัย แต่ทั้งนี้การสวมหน้ากาก อาจจะป้องกันการติดเชื้อได้ แต่อาจจะทำให้ผู้ที่ออกกำลังกายนั้น แย่ เพราะอาจจะทำให้คาร์บอนไดออกไซด์คั่ง หายใจเหนื่อย ยิ่งกลุ่มคนสูงอายุยิ่งต้องระวัง 

           ล่าสุดทางเพจ 1412 Cardiology ได้ออกมาให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายว่า  หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย จะเพิ่มแรงต้านการหายใจ ทำให้หายใจได้ลำบากขึ้น ลมหายใจออกจะถูกกักอยู่ในหน้ากากนานขึ้น เพิ่มปริมาณ CO2 ที่หายใจกลับเข้าไปแม้จะมีลิ้นหายใจออกบนหน้ากากก็ตาม ยิ่งหายใจเร็วขึ้นเหนื่อยมากขึ้นก็จะแย่ลง นอกจากปอด หัวใจและหลอดเลือดจะต้องทำงานหนักมากขึ้น HR จะเข้าโซนเร็วกว่าปกติ ใน well-trained athletes จะทนทานได้ในระดับหนึ่ง แต่นักวิ่งหน้าใหม่ กลุ่มผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย เป็นอันตรายได้ ความร้อนที่เกิดขึ้นในหน้ากากสูงทำให้เกิดเหงื่อ หน้ากากจะเปียกได้ง่ายจากด้านใน การป้องกันอาจจะไม่ดีเท่าในขณะที่หน้ากากแห้ง

            หน้ากากSMmedicalgrade หรือ หน้ากากN95 จะยิ่งเพิ่มปัจจัยดังกล่าวข้างต้น หน้ากากเหล่านี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อออกกำลังกาย #ElevationTrainingMask ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และที่แย่กว่านั้น เพิ่มแรงต้านการหายใจ รวมถึงสัดส่วนของ Oxygen ที่ต่ำกว่าหน้ากากอนามัย ใช้สำหรับการฝึกซ้อมของนักกีฬาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอดและหลอดเลือด

             Buff ดีกว่าในแง่ของการหายใจและการระบายลมหายใจออก (CO2) ทางด้านล่างที่เปิดช่องได้มากกว่าหน้ากากอนามัย แต่ข้อเสียก็คือการป้องกันการแพร่เชื้อทำได้ไม่ดีเท่าหน้ากากอนามัย

ความคิดเห็นจากชาวเน็ต

ออกกำลังกายในบ้านดีกว่า

แค่เดินไวยังหายใจลำบาก

             ไม่แนะนำให้ใส่ออกกำลังกายนะคะ เพราะจะทำให้เหนื่อยเร็ว หรือทำให้มีอาการวูบ เชื่อว่านักวิ่งหลายคนคงสังเกตตัวเอง เวลาสวมหน้ากากแล้ววิ่งจะเหนื่อยกว่า เวลาที่ไม่สวม  จะเพิ่มแรงต้านการหายใจ ทำให้หายใจได้ลำบากขึ้น  ยิ่งหายใจเร็วขึ้นเหนื่อยมากขึ้นก็จะแย่ลง​

ขอขอบคุณที่มาจาก: 1412 Cardiology