เข้าแล้วเงินประกันราคาข้าวรอบที่1 พื้นที่น้ำท่วมรับ 2 เด้ง

      นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้ออกมา ผยถึงเรื่องเงินประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2562/63 รอบที่ 1 ซึ่งทางรัฐบาลสามารถจ่ายเงินส่วนต่างรอบแรกได้แล้ว ถือว่าเป็นโครงการที่ทำได้เร็วและทำได้จริงตามที่รัฐบาลได้แถลงไว้ และจะทำต่อไปตลอดช่วงอายุรัฐบาล รวมทั้งสินค้าที่จะประกันรายได้ต่อไป คือ มันสำปะหลัง และข้าวโพด 

       ซึ่งราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงข้าวเปลือกหอมมะลิ อยู่ที่ตันละ 16,723.09 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ อยู่ที่ตันละ 15,651.05 บาท ข้าวเปลือกเจ้า อยู่ที่ตันละ 7,530.36 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี อยู่ที่ตันละ 10,216.55 บาท และข้าวเปลือกเหนียว อยู่ที่ตันละ 18,926.86 บาท ดังนั้นจึงส่งผลให้รัฐบาลต้องจ่ายชดเชยส่วนต่างในข้าวเปลือก 2 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 2,469.64 บาท และ ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 783.45 บาท ส่วนชนิดที่เหลือนั้นอยู่ในเกณฑ์ราคาสูงเลยเพดานของราคาประกัน ทั้งนี้ การจ่ายเงินชดเชยงวดแรก ธ.ก.ส. จะโอนเงินชดเชยเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ซึ่งเกษตรกรจะสามารถเบิกถอนเงินได้ทันทีภายในวันที่ 15 ต.ค. 2562 ซึ่งในงวดแรก มีเกษตรกรได้รับเงินชดเชยจากข้าวเปลือกเจ้าและข้าวเปลือกหอมปทุมธานี จํานวน ประมาณ 349,000 ครัวเรือน วงเงินชดเชยประมาณ 9,400 ล้านบาท

       ทั้งนี้ชาวนาหลายท่านจะได้รับเงินประกันราคาข้าวภายในวันที่ 15 ตุลาคา ซึ่งนับว่าปีนี้ราคาดี แต่หลายพื้นที่กลับโดนน้ำท่วมพื้นที่นาเสียหาย ซึ่งทางรัฐบาลได้แจ้งว่าสำหรับชาวนาที่น้ำท่วมเจอภัยพิบัติก็ได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลตามสิทธิคู่กันไปด้วย โดยรับเงินส่วนต่างตามโครงการนี้ด้วยเช่นกัน ขอให้มั่นใจได้ รวมทั้งจะยังดำเนินการนโยบายสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกในกรณีที่มีผลผลิตข้าวออกมามาก เพื่อดูดซับปริมาณข้าวออกจากตลาด ซึ่งจะมีการพิจารณาเป็นกรณีไป  

ข้าวขายก็ไม่มี

      สำหรับเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะชาวนาจะได้รับเงินประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และพื้นที่ประสบภัยพิบัติก็ยังได้รับเงินในส่วนนี้ด้วย ยังไงก็ขอให้มั่นใจได้เลย