แม่ลูก 2 ขโมยเงินทอดกฐิน 160 บาท หวังเอาไปซื้อข้าวให้ลูก 

       จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Jaturong Prombooth  ได้ออกมาโพสต์ภาพของ คุณแม่ และลูกอีก 2 คน พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่าตำรวจเอง ได้รับแจ้งว่ามีคนขโมยของที่ร้านแห่งหนึ่ง และจับได้ว่า หญิงคนหนึ่ง ขโมยเงินทอดกฐินที่เสียบไม้ จำนวน 160 บาท และในทางคดีนั้นถือเป็นคดีอาญา ยอมความกันไม่ได้ โดยหญิงคนดังกล่าวนั้นจะนำเงินไปซื้อข้าวให้ลูก โดยจากโพสต์นั้นได้ระบุรายละเอียดว่า 

#อัพเดทครั้งที่4

     1.ทาง ผอ.โรงเรียงวัดไผ่ตัน ท่านทราบถึงปัญหานี้และได้ดำเนินการดูแลมาโดยตลอด อีกทั้งยังแจ้งว่าเด็กทั้ง2ได้รับสิทธิประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการศึกษาครบถ้วน แต่ปัญหาคือเด็กๆเรียนในชั้นเรียนที่มีเพื่อนร่วมชั้นเรียนอายุน้อยกว่าตนจึงมีปัญหาในการเรียนในห้องเรียน ซึ่งทางท่าน ผอ.แจ้งว่าจะประคับประคอง​เด็กไปจนถึงที่สุดและหากมีความจำเป็นหรือเด็กต้องการศึกษาในระบบนอกโรงเรียนก็จะได้ติดต่อกับ กศน. ให้เด็กต่อไป

     2. ครอบครัวที่มีปัญหาในลักษณะนี้ มีเยอะมากในท้องที่ ทางโรงเรียนทราบถึงปัญหาและแจ้งว่ายังมีเด็กที่ยากไร้กว่านี้อีก ฉะนั้นการช่วยเหลือไม่อยากให้ไปกระจุกตัวที่ครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง หากท่านใดจะบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ที่เป็นประโยชน์​กับเด็กๆและครอบครัว ติดต่อที่โรงเรียนวัดไผ่ตันได้ครับ

     3. #ย้ำ ว่าเคสนี้ไม่เปิดรับการบริจาคเป็นเงินเด็ดขาด และไม่ได้มอบหมายให้ผู้ใดนำไปเรี่ยไรต่อ จะมีเพียงผู้ใหญ่ที่สงวนนาม 3 ท่าน ที่ช่วยชำระค่าปรับและมอบเงินสนับสนุนยังชีพให้ครอบครัวไปตั้งตัว

     4. เรื่องนี้ผมไม่ทราบว่าจะเหมาะสมไม๊ แต่ก็ขอให้ใช้วิจารณญาน​เพราะตัวผมเองก็เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ การทำอะไรย่อมมีข้อบังคับ กฎเกณฑ์​ ระเบียบ กฎหมาย ควบคุมอยู่ ทางห้างสรรพสินค้าเองก็มีนโยบายที่จะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุซึ่งทุกๆคนก็ควรเข้าใจ และทราบดีแล้วว่าเป็นคดีอาญาแผ่นดิน ผมไม่อยากให้ไปต่อว่าห้าง หรือต่อว่าใครๆก็ตามที่เกี่ยวข้องว่าทำเกินไป ทุกคนมีหน้าที่ของตน คุณจะใช้ความขัดสนยากจนไปทำผิด มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง

      แต่การที่ผมแชร์เรื่องนี้เพราะว่า ปกติผมก็ขี้บ่นชอบระบายอยู่แล้ว และไม่คิดว่าจะมีคนมาสงสารเห็นใจจนมาช่วยเหลือกันมากมาย…. คุณแม่ที่ไปลักขโมย ผิดก็คือผิดเค้าคือคนผิด… แต่เคสนี้ก็ดีใจที่คนพร้อมให้โอกาสในขณะที่ทางผู้เสียหายคือห้าง เค้าไม่ได้ทำผิดอะไรและถ้าพูดตามตรงเค้าเสียหาย หากปล่อยปะละเลยก็อาจมีการกระทำความผิดซ้ำ ดังนั้นการนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการกฎหมายของห้างก็เป็นเรื่องที่สมเหตุ สมผล และการให้โอกาสจากสังคมก็เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดี

#อัพเดทครั้งที่3

    1.เรื่องค่าปรับ มีผู้ใจบุญ โอนมาช่วยเหลือครบถ้วนเป็นเงิน 5,000 บาท แล้วครับ จะไปดำเนินการชำระในวันเสาร์นี้ (วันหยุดงานของคุณแม่)

    2.เรื่องทุนการศึกษา ทางโรงเรียนวัดไผ่ตัน ประสานกับเด็กๆทั้ง 2 คนในวันพรุ่งนี้น่าจะมีข่าวดีครับ

    3.มีผู้ใหญ่ใจดี ซื้อรถจักรยานให้แม่ขับไว้ไปทำงาน

    4.มีผู้ใหญ่ใจดีสั่งสินค้าเป็นข้าวสารอาหารแห้ง จัดส่งให้ไปยังที่พักของน้องๆเพื่อเป็นการบรรเทาค่าใช้จ่าย

    5.มีผู้ใหญ่ใจดีช่วยออกเงินซื้อหม้อหุงข้าวใบใหม่เนื่องจากที่มีอยู่มันพังแล้ว

5.ที่ผมไม่โพสต์เลขบัญชีเพื่อทำการเรี่ยไรเงินเพราะ การเรี่ยไรเงินที่ถูกตามกฎหมายตาม พระราชบัญญัติควบคุมการเรี่ยไร ปี 2487 ระบุคุณสมบัติว่าผู้เรี่ยไรต้องไม่เคยต้องโทษในความผิดฐานลักทรัพย์ หากจะเอาบัญชีตัวเองเรี่ยไรหรือบัญชีบุคคลอื่นก็ยิ่งเป็นการไม่เหมาะสม อาจจะเป็นประเด็นในเรื่องของทุจริตต่อหน้าที่

    7.สุดท้าย แม่กลับเข้าสู่อ้อมกอดลูก ไม่ต้องถูกคุมขัง และมีพี่ใจดีท่านนึงฝากข้อความให้บอกกับน้องๆว่า

    "…ไม่ใช่เพราะแม่ไปหยิบของคนอื่นมาแล้วได้รับผลตอบแทนแบบนี้นะคะ ที่ทุกคนช่วยกัน เพราะอยากให้เด็กๆเป็นอนาคตที่ดีของสังคม นี่ไม่ใช่การตอบแทนที่ไปทำผิด แต่เราควรช่วยคนที่กำลังเดือดร้อน ที่ช่วยนี่เพราะเคยลำบากยากจนมาก่อน เคยเพราะไม่มีเงินตอนเด็กๆ แต่เพราะมีโอกาสได้เรียน ได้ทำงานที่ดี ได้สังคมดีๆ เลยมีโอกาสช่วยคนอื่น…"

     ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่ให้โอกาสครอบครัวนี้ กลับสู่สังคม ซึ่งผมมั่นใจว่าไม่ได้มีแค่ครอบครัวนี้ครอบครัวเดียวแต่ยังมีอีกเป็นร้อยๆครอบครัวที่ประสบปัญหาเช่นนี้ ปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ ความสามารถในการเข้าถึงปัจจัย4ที่ไม่เท่ากัน ผมเชื่อว่ามันเป็นสิ่งบีบคั้นที่ทำให้คนก่ออาชญากรรม ซึ่งก็ต้องมองเป็นกรณีๆไป แต่กรณีนี้จากการเป็นพนักงานสอบสวนมาเกือบๆ 2 ปี ถือว่าสะท้อนสังคมได้มากที่สุด

…ขอขอบคุณและขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ…#160บาทที่แพงที่สุดในชีวิต #ค่าแรง300บาทที่อาจเป็นเงินที่อุ้ม3ชีวิตใน1วันและอาจเป็นเงินที่ผมใช้กินข้าวได้เพียง1มื้อ

#อัพเดทครั้งที่2

    – ออกจากศาลแล้ว แต่ต้องชำระค่าปรับเป็นเงิน 5,000 บาท

    – ศาลอนุญาตให้เลื่อนชำระค่าปรับไปอีก 1 เดือน คือให้จ่ายภายในวันที่ 4 ต.ต.62

    – จริงๆแล้วมีอีกทางออกคือให้ทำงานบริการสังคม ทดแทนค่าปรับ ตาม ป.อาญา มาตรา 30/1 เป็นเวลา 10 วัน วันละ 4 ชั่วโมง แต่ทางเจ้าหน้าที่ศาลและทางตัวผู้ต้องหาเห็นพ้องกันว่าถ้าต้องมาทำวันละ 4 ชั่วโมง จะทำให้ขาดรายได้ (เพราะไม่สามารถลางานได้ ซึ่งใจของผู้ต้องหาก็อยากจะไป แต่ขาดงานไม่ได้จริงๆ

    – แต่อย่างน้อยตอนนี้ 3 แม่ลูกก็ได้กลับมาอยู่ด้วยกันและแม่ไม่ต้องไม่ต้องติดคุกเพื่อชดเชยค่าปรับ

    – ขอบคุณเจ้าหน้าที่ศาลที่ช่วยดำเนินเรื่องให้เลื่อนการชำระค่าปรับ ถึงแม้จะยังคงเหลือโทษปรับ

    – พรุ่งนี้แม่ก็คงกลับไปทำงานที่เดิมได้ตามปกติ

    – มีผู้ใหญ่ใจดีหลายท่านจะเสนองานให้แม่ และเป็นห่วงเรื่องของเด็กๆ แต่ก็ต้องดูอีกทีว่าอะไรที่ขาดแคลนจริงๆ

#อัพเดทครั้งที่1

     4/ก.ย./2562 -คุณแม่กำลังจะไปศาล -น้องอยู่กับผม ***สำหรับช่องทางการช่วยเหลือน้องนะครับ*** น้องผู้หญิง อายุ 13 ปี ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ป.4 ที่ รร.วัดไผ่ตัน น้องผู้ชาย อายุ 14 ปี ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ป.3 ที่ รร.วัดไผ่ตัน (พี่ชายเรียนช้ากว่าน้องสาว) เหตุที่เรียนช้าเพราะเคยขาดเรียนไปช่วงหนึ่งแต่จำไม่ได้ว่ากี่ปี โดยช่วงที่ขาดเรียนมีผู้ใหญ่ใจดีจ้างน้องให้ไปล้างจานล้างแก้วกาแฟ แต่ทางร้านไม่ได้จ้างคุณแม่น้องด้วย  จนกระทั่งร้านฟาสฟู้ดจ้างแม่ไปเป็นแม่บ้านล้างจาน น้องจึงได้ออกจากงานและเข้าสู่ระบบการศึกษาตามปกติ น้องผู้หญิงชื่อ เด็กหญิงขนิษฐา ขุมทอง ชื่อเล่นน้องใหญ๋ อายุ 13 ปี สูงประมาณ 153 หนักประมาณ 40 กก.(น้องเข้าสู่วัยมีประจำเดือนแล้ว) น้องบอกว่าชอบอ่านหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ มหาสนุก  หนังสือนิทาน หนังสือการ์ตูน ชอบหมด น้องผู้ชายชื่อ เด็กชายประหยัด ขุมทอง ชื่อเล่นน้องฟิล์ม อายุ 14 ปี ตัวพอๆกันแต่อนาคตอาจจะโตไวกว่านี้ ถ้าพ้นขึ้นสู่วัยรุ่น(เด็กชายจะโตไวกว่า) ที่อยู่ ห้อง567 ธัญนีอพาร์ทเมนท์ 19/37 ซอยอินทามระ 29 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. 10400 จากที่สอบถามว่าทำไมถึงพักที่อพาร์ทเมนท์เพราะค่าเช่ามันจะสูงกว่าห้องแถวทั่วไป น้องบอกว่าคุณแม่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย คุณแม่มีโรคส่วนตัวคือโรคเก๊าท์ และอาศัยที่ชั้น 5 อาคารไม่มีลิฟต์ –ขอบคุณครับ–

     #อันนี้สาระ วันนี้เป็นวันที่เข้าเวรตั้งแต่หกโมงเช้าถึงหกโมงเย็น มันมีเรื่องมาพีคตอน 20 นาทีสุดท้าย คือ… มี นาง ก. อายุ54ปี ไปลักทรัพย์จำนวน 160 บาท (เงินทำบุญกฐินที่เสียบไม้ซึ่งวางตั้งไว้ในห้างแห่งหนึ่งในท้องที่)​ บันทึกจับกุมทำแบบจับโดยประชาชนเนื่องจากพนักงานของห้างเป็นผู้ควบคุมขณะเกิดเหตุ สายตรวจของเราไปรับตัวมาเพื่อส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี พอมาถึงร้อยเวรจึงสอบถามเนื่องจากเป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ในทฤษฎี ทางห้างยืนยันที่จะดำเนินคดีเราจึงต้องทำตามหน้าที่ ก็ได้ใจความว่า.. เงินที่ขโมย160บาท จะเอาไปซื้อข้าวให้ลูก2คน (อายุ12และ13)​กิน เนื่องจากเงินที่ได้ในแต่ละวันไม่พอใช้ นาง ก. รับจ้างล้างจานในร้านฟาสฟู้ด​ ได้ค่าแรงวันละ300 บาท รายจ่ายที่มีคือค่าเช่าบ้าน 3300 บาท เงินให้ลูกทั้ง2ไปโรงเรียน ซึ่งการใข้ชีวิตในกรุงเทพ มันยากอยู่นะ

    จากนั้นสักพักจึงตามตัวลูกทั้ง2ได้ ซึ่งเที่ยวเล่นกับเพื่อนตามประสาเด็กที่เลิกเรียน ลูกชายวัย13ขวบ มาถึงโรงพักก่อน วิ่งเข้ามาในห้องสอบสวน มาถึงก็ร้องไห้ไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าแม่จะโดนจับ "แม่ทำทำไม แม่สอนผมตลอดว่าต่อให้เราไม่มีกินก็ห้ามขโมยของคนอื่น" แม่ก็ขอโทษลูกๆๆๆ จังหวะนั้นคือร้อยเวร พี่ๆน้องๆพนักงานสอบสวนก็เดินออกจากห้องเลย (ถ้าอยู่ก็ร้องไห้ตรงนั้นอ่ะ)​จริงๆตัวเขาก็คงไม่อยากให้ลูกรู้ แต่ถ้าอยู่ๆแม่ต้องโดนควบคุมตัวลูกก็คงร้อนใจไม่ต่างกัน

     สักพักลูกสาววัย 12 ปี ตามมา ก็โวยวายใหญ่เลยว่าเงินแค่160บาท คืนไปแล้วทำไมยังจะจับแม่หนู ตรงนี้มันก็เข้าใจได้นะ เค้ายังเด็ก และเห็นว่าเงินคืนไปแล้ว จะอธิบายตามกฎหมายก็คงไม่เข้าใจ

     เด็กทั้ง2 นั่งเฝ้าร้อยเวรสอบปากคำแม่ ไอ่ลูกชายก็ไปซื้อข้าวซื้อน้ำให้แม่ และไปหาผู้ใหญ่ที่พอจะไปธุระที่ศาลได้ ลูกสาวมาถึงก็เดินไปบอกร้านฟาสฟู้ด​ที่แม่ทำงานเพื่อแจ้งว่าแม่มีธุระต้องไปศาล ขอลางาน1วัน เด็กกลับมาบอกว่า "ผจก.ร้านไม่เชื่อ" มันก็ไม่น่าเชื่อนะที่เด็ก12ขวบมาขอลางานให้แม่ เพราะแม่ต้องไปขึ้นศาลอ่ะ สอบปากคำเสร็จจะนำแม่เข้าห้องควบคุม พี่ๆ… หนูขอนอนกับแม่(ในห้องขัง)​ได้ไหม? "พี่ไม่อนุญาต" "ถ้าหนูจะนอนพี่ให้หนูนอนตรงเบาะห้องประจำวัน" (มีแอร์, ทีวี) จากนั้นเราก็ชวนน้องคุย…
น้องก็โตเกินวัยนะ เพราะสภาพสังคมมันทำให้น้องต้องสู้อ้ะ

    น้องรู้หมดว่าถ้าที่ทำงานรู้ว่าแม่ต้องไปขึ้นศาล"ในฐานะผู้ต้องหา" แม่คงตกงาน เราเลยถือโอกาส​สอนน้องให้อดทน ตั้งใจเรียน เติมเงินมือถือให้ เพราะน้องโทรออกไม่ได้ "เผื่อมีไรให้โทรติดต่อพี่นะ" พอน้องเดินกลับไปจึงเห็นในระยะสายตาว่า… แม้แต่รองเท้าน้องก็ยังไม่มีใส่

      พอกลับมาถึงที่พัก น้องโทรมา บอกว่า พี่ๆ หนูกลับไปทำกับข้าวให้แม่ หนูเอามาให้แม่ได้ไหม? "ได้สิ" เรื่องนี้มันสะท้อนไปทั้งระบบสังคมเลย คนทำผิด ผิดจริง ก็ควรว่าไปตามผิด แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าสภาพสังคมที่บัดซบเฮงซวยและระยะห่างของชนชั้นมันก็มีผลให้คนตัดสินใจก่ออาชญากรรม หัวโล่ง ว่างเปล่า เรื่องเหี้ยๆในชีวิตเล็กไปเลย หนูเอ้ยยย… เดี๋ยวพี่ไปเอาเสื้อผ้าของน้องสาวที่โคราชมาให้ ตั้งใจเรียนโตมาละดูแลแม่ให้ดีๆนะ ป.ล.สามีของนาง ก. พ่อของเด็กเสียชีวิตหลังจากที่น้องผู้หญิงเกิดได้ 8 วัน เนื่องจากอุบัติเหตุ​ทำงานบนที่สูง ทาสีบนอาคารและตกลงมาเสียชีวิต

      ทั้งนี้ทาง เจ้าของเรื่องได้ติดตามรายละเอียดครอบครัวแม่ลูกทั้ง 3 คน เพื่อหาทางช่วยเหลือ ซึ่งเรื่องคดีนั้นสุดท้ายแม่เด็กเคราะห์ดี โดยศาลลงโทษปรับเป็นเงิน 5,000 บาท และเลื่อนชำระออกไปอีก 1 เดือน    

ขอขอบคุณที่มาจาก : Jaturong Prombooth