เคล็ดลับ ตากผ้าหน้าฝนยังไงไม่ให้เหม็นอับ

          ช่วงหน้าฝนแบบนี้คุณพ่อบ้านคุณแม่คงเจอปัญหาซักผ้าแล้วตากไม่แห้งเกิดขึ้นได้ นำไปสู่กลิ่นที่รบกวนทั้งตัวเองและสังคมส่วนรวม อย่างกลิ่นเสื้อผ้าที่เหม็นอับ สร้างความรำคาญและลำบากใจในการซัก และช่วงนี้หลายคนก็หาวิธีซักผ้า ตอนหน้าฝนเพื่อลดปัญหาการเกิดกลิ่น เช่นกับสมาชิกท่านนี้ ที่ได้ขอคำแนะนำ

        วันนี้เราจึงนำเทคนิค ในการซักผ้าหน้าฝนมาฝาก อีกทั้งยังมีคำแนะนำจากชาวเน็ตอีกมากมาย ไปดูกันค่ะว่า มีวิธีการซักผ้าไม่ให้เหม็นยังไงบ้าง 

5 เทคนิค ซักผ้าหน้าฝน ไม่ให้เหม็นอับ

1. แยกซักและแยกอบผ้า  การแยกซักในที่นี้ไม่ใช่การแยกซักระหว่างเสื้อผ้าสีขาว กับเสื้อผ้าสีๆ นะคะ แต่เป็นการแยกซักระหว่างลักษณะเสื้อผ้าที่แห้งง่ายและเสื้อผ้าที่แห้งยาก การแยกซักเสื้อผ้าระหว่าง 2 ประเภทนี้จะทำให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าได้ ด้วยการตั้งโปรแกรมการซักผ้าที่เหมาะสม เสื้อผ้าที่แห้งง่ายนั้นจะมีลักษณะที่ไม่หนา จึงไม่ต้องตั้งโปรแกรมที่ปั่นแรง กลับกันเสื้อผ้าที่หนาจะทำให้แห้งยาก ควรใช้โปรแกรมปั่นแรง  นอกเหนือจากนี้การแยกอบผ้าก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ผ้าแห้งสนิท ปราศจากกลิ่นอับมารบกวน เนื่องจากหากอบผ้ารวมกันทั้งหมด เครื่องจะหยุดทำงานหากเสื้อผ้าที่แห้งง่ายแห้งหมดแล้ว ทำให้เหลือเสื้อผ้าที่แห้งยากยังไม่แห้งอยู่นั่นเอง

2. เลือกซื้อผงซักฟอกที่ทำมาโดยเฉพาะ ผงซักฟอกบางสูตรที่เคลมว่าช่วยลดหรือป้องกันการเกิดแบคทีเรียหรือเชื้อรา จะมีเทคโนโลยีเฉพาะแบรนด์หรือยี่ห้อนั้นๆ เพื่อลดการเกิดกลิ่นสะสมเวลาที่ซักและตากแล้วนั่นเองค่ะ

3. ใช้เบคกิ้งโซดาซักผ้าแทนการใช้ผงซักฟอก ผงซักฟอกบางยี่ห้อมีการผสมแป้ง ดังนั้นเมื่อเสื้อผ้าไม่แห้งสนิท จะทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ขึ้นได้ แต่การใช้เบคกิ้งโซดาอาจจะไม่ทำให้เกิดฟอง เหล่าคุณพ่อบ้านและคุณแม่บ้านอาจจะไม่แน่ใจถึงความสะอาดของเสื้อผ้า หากการซักผ้าด้วยเบคกิ้งโซดาอย่างเดียวไม่เพียงพอ เรามีอีกเทคนิคหนึ่ง คือ หลังจากที่ซักด้วยผงซักฟอกปกติแล้ว ในน้ำสุดท้ายให้แช่เสื้อผ้าทั้งหมดลงในน้ำที่ผสมเบคกิ้งโซหาประมาณ 10-15 นาที จากนั้นจึงปั่นให้แห้งแล้วนำไปตากค่ะ

4. ใช้พัดลมหรือไดรเป่าผมเป่าให้แห้ง หลังจากซักผ้าตามปกติแล้ว แต่ไม่มีเครื่องอบผ้า ให้ตากผ้าแล้วใช้พัดลมเป่าจะช่วยให้ผ้าแห้งไวขึ้น แต่หากเจอเนื้อผ้าหนาๆ ไม่แน่ใจว่าการเป่าด้วยพัดลมอย่างเดียวจะทำให้ผ้าแห้งสนิทหรือไม่ ให้ใช้ไดรเป่าผมเป่าให้แห้งสนิทอีกรอบค่ะ

5. ล้างเครื่องซักผ้าเป็นประจำ  จะใช้วิธีและน้ำยาล้างเครื่องซักผ้าที่เซลล์ขายเครื่องซักผ้าแนะนำมาก็ได้ โดยให้เปิดเครื่องซักทำงานปกติ เติมน้ำประมาณครึ่งถังซักผ้าผสมกับน้ำยาล้างเครื่องซักผ้า หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หรือเบคกิ้งโซดาผสมน้ำส้มสายชู ปล่อยให้เครื่องทำงานตามปกติ แล้วทิ้งไว้อีกประมาณ 3-4 ชั่วโมง ค่อยปล่อยน้ำออก

ความคิดเห็นจากชาวเน็ต

เป่าพัดลม[ads]

ผงซักฟอก 

ตากไว้หลังพัดลมแอร์

            เพียงเท่านี้ก็จะได้ไม่ต้องเป็นผู้ประสบภัยจากปัญหาเสื้อเหม็นอับ หากต้องซักเสื้อผ้าในช่วงหน้าฝนอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่หลายท่าน ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ดู แล้วปัญหาเหล่านี้จะลดลง  ไม่มีที่อบ ก็พัดลมดีๆในบ้านของเรานั่นเองจ้า อิอิ 

ขอขอบคุณที่มาจาก: สมาชิกหมายเลข 4277224