เชื่อว่าหลายคนที่มีปัญหาผมบางหัวล้าน ต้องคิดที่จะอยากปลูกผมแน่นอน แต่ทั้งนี้การปลูกผมก็มีหลายวิธี มีทั้งการทายา และการปลูกแบบจริงจัง ซึ่งวันนี้เรานำประสบการณ์การปลูกผม ของสมาชิกพันทิปท่านหนึ่ง ได้ออกรีวิว เพื่อเป็นอุทากรณ์ ให้กับหลายคนที่กำลังอยากจะทำ โดยเขาบอกว่า อุทาหรณ์ เสียเงินสองรอบ เพราะปลูกผมผิด ชีวิตเปลี่ยน โดยระบุเรื่องราวทั้งหมดว่า
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาว pantip เมื่อต้นปีผมมีโอกาสได้อ่านรีวิวปลูกผมของสมาชิกท่านหนึ่ง แล้วเหมือนเห็นภาพตัวเองที่เจอชะตากรรมเดียวกัน จากเหตุการณ์แล้วเลยคิดว่าน่าจะเป็นคลินิคเดียวกับที่ผมไปทำมา เคสของผมก็ผ่านมาหลายปีแล้วนะครับ แต่วันนี้เลยอยากจะมาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองเหมือนกัน เป็นประสบการณ์และข้อมูลให้คนที่จะปลูกผม ว่าอย่าเชื่อคำโฆษณาที่มีแค่รีวิว เพราะใคร ๆ ก็สร้างมันขึ้นมาได้ !
ผมเป็นคน ผมน้อยตามกรรมพันธ์ุ ยิ่งอายุเยอะยิ่งเหลือน้อย ชีวิตไม่มีอะไรที่เป็นปัญหามาก ยกเว้นเรื่องผม ทำให้รู้สึกไม่มีความมั่นใจ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่มีแฟนซักที ปรึกษาเพื่อน ๆ ในกลุ่มที่มีครอบครัวกันแล้วหลายคน มันลงความเห็นให้ผมลองปรับเปลี่ยนตัวเอง เริ่มที่การปลูกผมก่อนเลย ซึ่งน่าจะช่วยให้ผมมีบุคลิกที่ดีและมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น
หลังจากนั้นก็ไปทำการบ้านมาระยะนึง มือใหม่ก็จะดูแต่รีวิว ที่ไหนดูมีคนไปทำเยอะ ที่ไหนดูราคาไม่เจ็บตัวมาก สุดท้ายตัดสินใจทำที่คลินิคที่นึง ปลูกผมครั้งแรก โดนไปที่ราคา 79,000 บาท โดยที่ทางคลินิกเคลมไว้ว่าผมจะขึ้นสวยในระยะเวลา 4-6 เดือน
ผมได้คิวนัดช่วงสาย ๆ เข้าไปถึงก็เจอเซลล์รอรับหน้า ถามงบผมเสร็จสรรพ ซึ่งจริง ๆ เซลล์ก็มาสายเดียวกับกระทู้นึงผมพูดถึงนั่นแหละ คือตอนแรกพยายามจะหว่านล้อมให้ผมเพิ่มเงินด้วยการเติมสเต็มเซลส์เนื้อเยื่อ และได้เพิ่มจำนวนกราฟเป็น 3,500 แต่ด้วยความเข้มแข็งของผมและความไม่มีงบแล้วจริง ๆ เลยทำให้ผมต้องยืนยันคำเดิมอย่างหนักแน่น เพราะว่าผมไหวที่เท่านี้ ไม่มีเงินแล้ว ตื๊อยังไงผมก็ไม่เอา เลยได้บทสรุปที่ ผมต้องทำแบบ FUE ซึ่งใช้เครื่องมือพิเศษเจาะกราฟผมด้วยเครื่องเจาะอัตโนมัติ แต่ด้วยราคานี้เคสผมเลยใช้จำนวน 2,000 กราฟและไม่มีแผลเย็บ
ถัดมาก็สเต็ปเดียวกัน เรื่องเอกสารให้เซ็น จุดที่ผมพลาด แต่ไม่ได้จะโบยความผิดให้คลินิกเพราะถ้าพูดไป ส่วนหนึ่งก็ความประมาทของตัวเอง ไม่ชอบอ่านรายละเอียดมาก เลยเซ็น ๆ ไปก่อน เพราะก่อนจะตกลงทำก็คิดว่าคุยกันเข้าใจตามนั้นแล้ว กะว่าเสร็จแล้วค่อยขอสำเนามาอีกที
ผมเข้าห้องผ่าตัดปุ๊บ อ้าว.. คุณหมอ ไม่ใช่ที่คุยกันไว้นี่หน่า เรื่องต้องโดนโกนผมจนถึงด้านหลัง ซึ่งตอนแรกที่เซลล์คุยเค้าไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ไว้ ตอนปลูกก็เจ็บมาก จิ้มทีเจ็บที น้ำตาซึมของจริง กว่าจะทำเสร็จจำได้หัวระบมพอสมควร ห้ามสระผมไป 2 วัน แถมยังต้องพักฟื้นเกือบ 1 อาทิตย์ ลางานเพิ่มฉุกเฉินอีก ส่วนหนึ่งคืออาย รับไม่ได้เหมือนกัน
ภาพหลังทำเสร็จ จะมีเป็นเหมือนตุ่มไข่หนอน ตอนนั้นไม่โอเครมากๆครับ ผมต้องเอาผ้าโผกหัวเป็นอาทิตย์ๆ
ผลลัพธ์ตามภาพหลังจากผ่านมา ประมาณ 7 เดือน

ระยะเวลาผ่านไปหลายเดือน สุดท้ายมีผมขึ้นเล็กน้อย แต่ขึ้นไม่ดี ยาวช้ากว่าผมปกติ และรู้สึกการเรียงเส้นไม่สวยเลย คือพูดง่าย ๆ ว่าผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คุยไว้ ต้องพันผ้า อายก็อาย อุตส่าห์เลือกที่นี่เพราะคิดว่ามีชื่อเสียงและรีวิว แล้วดูผมต้องเสียเงินไปแล้วเพื่อแลกกับความไม่ละเอียดนี้หรอ
ผมปล่อยผ่านมาประมาณปีครึ่ง เพราะเข็ดเจ็บทั้งเงินและตัว แต่ยังมีหาที่ซ่อมใหม่ หาข้อมูลเผื่อๆไว้ และก็ภาวนาที่ทำไปให้มันขึ้นไปด้วย ช่วงนี้ก็ไปพึ่งพวกแชมพู เซรั่มบำรุงผม ที่เขาว่าดีๆ ก็ผลลัพธ์ประมาณหนึ่ง มีหารีวิวหาข้อมูลเยอะมาก รวมไปถึงการปลูกหลาย ๆ รูปแบบ นวัตกรรมหลาย ๆ อย่างของหลาย ๆ ที่ จะไม่เน้นรีวิวของคลินิคอย่างเดียว แต่ต้องเอารีวิวจากที่อื่นทั้งดีทั้งแย่มา บวกลบคูณหารกัน ชั่งใจเอา จนได้สถานพยาบาลที่คัดมาแล้วจากความรู้สึกตัวเอง น่าเชื่อถือ เป็นคลินิกปลูกผมแห่งนึงในโรงพยาบาลย่านวิภาวดี จึงตัดสินใจปลูกผมครั้งที่สอง
รอบนี้หลังจากมีปรึกษากับคุณหมอ และแจ้งปัญหาที่เคยเจอและเคยทำมาก่อน ที่นี่เริ่มด้วยเช็คสภาพหนังศรีษะใหม่หมด ประเมินกราฟใหม่ ให้ผมแก้ไขโดยใช้วิธี Non-Shaven FUE คือไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องโกนผมด้านหลัง ไม่ต้องพักฟื้น รอยแผลหายภายใน 2 วัน เป็นอะไรที่ตรงข้ามกับรอบแรกทุกอย่าง คำเคลมอีกอย่างคือสามารถปลูกผมที่ยาวต่อได้เลย แต่ต้องยอมเสียเงิน 200,000 แพงกว่าเดิมมาก ซึ่งจังหวะนั้นบวกกับข้อมูลที่ผมหามาทุกอย่างเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจ จึงเลือกทำ ยอมรับตรงๆว่าที่ครั้งนี้ยอมจ่ายแพงขึ้นเพราะคิดว่าขอแลกกับผลลัพธ์ที่ดีกว่า ไม่อยากมากั๊กครึ่งๆกลางๆ กลัวดีก็ดีไม่สุด
ขอข้ามเรื่องเอกสารไปละนะครับ ตอนที่ผมได้เริ่มทำ ความรู้สึกตอนปลูกเจ็บนะ เจ็บแบบทนได้ น้ำตาไม่ซึมละ55555+ น่าจะเพราะไอตัวเจาะกราฟมันขนาดเล็ก มีคุณหมอประจำเคส เป็นคนเดียวกันกับที่ทำตั้งแต่เริ่มจนจบ เพราะเค้าบอกว่าการเรียงเส้นผมของหมอแต่ละคน ตอนปลูกจะคนละแนว มันเป็นเรื่องสำคัญขององศาแนวไรผม ปลูกเสร็จไม่ใช้ผ้าพันแผลเลย หมอเอากระจกให้ส่องดูหลังปลูกเสร็จไม่เป็นตุ่มไข่หนอน และสระผมได้ทันที ระยะการพักฟื้นไม่มี ใช้ชีวิตปกติ ผมไปทำงานเช้าอีกวัน แต่แค่ต้องงดเหล้า สูบบุหรี่ ก่อนและหลัง 1 สัปดาห์
เรื่องยาหลังปลูกที่ต้องกินประจำก็ไม่ต้องมี หลังปลูกผมหมอจะให้กินยาตามอาการคนไข้ มีแค่ตัวยาแก้ปวดและยาฆ่าเชื้อ ส่วนเรื่องอาหารเสริมเส้นผมก็แล้วแต่จะสะดวกจะกิน แต่ทางคลินิคจะแนะนำให้กินวิตามินเม็ดฟู่ Biotic C + Collagen ของคลินิกแบบต่อเนื่องแทน[ads]
ภาพหลังจากพึ่งทำเสร็จทันที

ผลลัพธ์หลังทำมา 1 ปีผมขึ้นเรียงหนาแน่นเป็นธรรมชาติดี ไอตรงหยิก ๆ เริ่มขึ้นเป็นทิศทางเดียวกัน
สรุป อุทาหรณ์สำหรับเรื่องนี้ คือ อย่าเอาชื่อเสียงของรีวิวใบเซอร์ของหมอคนเดียวมาตัดสินใจอย่างเดียว ทางคลินิกไม่เอาเคสหลุด ทำพลาดมาโชว์อยู่แล้ว เราจะต้องหาข้อมูลให้มากพอเอง จากเคสของผม ราคาก็มีผลต่อผลลัพธ์ ใครอยากปลูกผม ส่วนตัวผมแนะนำให้หาข้อมูลเรื่องวิธีการปลูกหลาย ๆ แบบด้วย เวลาคุณเข้าไปคุยกับเซลล์หรือหมอ จะได้พกความรู้ไปคุย ไม่ให้เค้ามาลักไก่ง่าย ๆ จ่ายทีเดียว จบทีเดียว ราคาถูกแพงแล้วแต่อุปกรณ์ นวัตกรรมและความชำนาญ ศึกษาจุดบอดให้มาก ๆ แล้วถามความเสี่ยงทุกอย่างที่เราคาดว่าจะเจอได้ แค่นี้คุณก็จะลดอัตราความเฟลไปได้เยอะ และที่สำคัญช่วยให้คุณเสียเงินแค่รอบเดียวพอ
ขอขอบคุณที่มาจาก: Gastonmatin