หมอรุ่งเรือง เผย 5 ยุทธศาสตร์สู้โควิด ไทยมาถูกทาง เตรียมพร้อมชัยชนะ

       เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 63 นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข โพสต์ข้อความเกี่ยวกับยุทธศาสตร์สู้โควิดของไทย ผ่านเฟซบุ๊ก นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ระบุว่า

       ""ยุทธศาสร์ที่ได้นำเสนอ 5 ข้อ" เรามาถูกทางแล้ว อดทนนะครับ #เราจะรวมพลังและประเทศไทยจะร่วมประกาศชัยชนะโควิด19 "ยุทธศาสร์ที่ได้นำเสนอ 5 ข้อ" ตามด้วย "ยุทธการ ยุทธวิธี ตามบริบทพื้นที่" เห็นได้ว่า "สถานการณ์ดีขึ้นชัดเจน" หากเราอดทน ทำต่อ เราจะชนะ และได้โอกาสดีๆ จาก โควิด 19 ครับ

       1) "เรียกศรัทธาดูแลพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่"

       ดูแล "พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ คนจน และกลุ่มรากหญ้า" (ขอบคุณรัฐบาลและทุกหน่วยงาน เอกชน ที่ข่วยเหลือพี่น้องกลุ่มนี้ ครับ) …มิเช่นนั้น ปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติด ความมั่นคงของประเทศจะตามมา มิติสังคม จิตใจ เศรษฐกิจ สำคัญมาก ให้กำลังใจ ช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ และนักรบทุกคน

       2) "บุกค้นหาผู้ต้องสงสัย ควบคุมเด็ดขาด"

       – บุกลุยควบคุมการแพร่เชื้อ ทำงานเชิงรุก ลงทุน สืบสวนสอบสวนและควบคุม รัฐบาลต้องลงทุน ให้งบประมาณ ตรวจ Lab "PCR" ~ 20,000-50,000 รายต่อวัน แยกรักษาผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย และแยกผู้สัมผัส ตามเฝ้าระวัง ถ้าติดเชื้อนำมาแยกรักษา

       – อย่ากลัวตัวเลขผู้ป่วย หรือ การพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม แต่เราจะรู้ข้อมูลจริง เพื่อวางแผนรับมือ ไปล่วงหน้า 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี และ 5 ปี หมอเรียนทุกท่านว่า ข้อมูลข้อเท็จจริงสำคัญที่สุด เวลานี้ (Moment of truth) ครับ

       (ผู้ติดเชื้อมากจะมีผู้ป่วยหนักมากขึ้น และคนตายมากขึ้น เพราะศักยภาพทางการแพทย์มีขีดจำกัด ถ้าติดเชื้อรวดเร็วในเวลาอันสั้น ~ 1 ล้านคน จะมีคนตาย > 1 แสนคน (หมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ ก็รับมือไม่ไหวครับ) ทุกข้อมูลต้อง จริง และ Real-time เพื่อควบคุมและรับสถานการณ์

       3) "สร้างพลังความร่วมมือ สร้างทัศนคติ ชุดความรู้ และพฤติกรรมป้องกันโรคโควิด 19"

       – ต้องยอมรับความจริง พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ ไม่มีความเข้าใจเรื่องของ "การติดต่อของโรคโควิด 19 การป้องกันตนเอง และการป้องกันการแพร่เชื้อไปยังคนอื่น" เรื่องนี้ ต้องทำอย่างหนัก เพราะมีแต่ความ "กลัว"

       – ให้ความรู้ความเข้าใจ "ประชาชน" อย่างจริงจัง มีประสิทธิภาพ เชิงรุก และทันเวลา ที่สำคัญ เป็นหนึ่งเดียว ทิศทางเดียวกัน ไม่สะเปะสะปะ ไม่ให้ข่าวที่ไม่มีประโยชน์ทางสาธารณสุข ขอให้พูดความจริง เชิงบวก สร้างสรรค์ ให้ข้อแนะนำ ครับ

       4) "มาตรการหมัดน๊อก อาวุธพร้อม"

       – ยุทธการ ยุทธวิธี มาตรการ อาวุธต้องพร้อม ต้องมี "หมัดน๊อก" และเลือก/เน้น มาตรการสำคัญ ตามหลักวิชาการและบริบทประเทศไทย ลดและชะลอการแพร่เชื้อมากที่สุด ต้องเพิ่มการค้นหาด้วยหลักระบาดวิทยา และ Lab (ทำอย่างถูกหลักวิชาการและเหมาะกับบริบทประเทศไทยและพื้นที่) ทำเชิงรุก เช่น ลดการนำเชื้อเข้าประเทศ ควบคุมในประเทศ ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก

       5) บังคับใช้กฏหมาย (ปราบคนพาล อภิบาลคนดี)

       – กฏหมาย / มาตรการ ต้องเข้มข้น เด็ดขาด พวกท้าทาย พวกฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน พวกไม่ร่วมมือต้อง "จับจริง" ไม่ให้เป็นแบบอย่าง

       – ปรับทัศนคติ และพฤติกรรม (ถ้าไม่ทำตามต้องบังคับใช้กฏหมาย จับจริง ทำให้เห็นถึง "การกำจัดคนพาล อภิบาลคนดี" กฏหมายต้องบังคับใช้จริงจัง โดยเฉพาะพวกท้าทายกฏหมาย พวกฉวยโอกาส

       "จับจริง ดำเนินคดีให้เป็นแบบอย่าง ตอนนี้โทษหนักกว่าเดิมมากครับ" การออกมาตรการใดๆ ต้องเข้าใจ (If and Then) สร้างความเข้าใจ พร้อมรับมือผลกระทบ ทุกมาตรการมีผลกระทบ นะครับ

       – นอกจากนี้ โปรดเมตตา ไม่ตีตราคนไข้และญาติของคนไข้ เขาทั้งหลายไม่น่ากลัวครับ

       – ความทุกข์พี่น้องประชาชน มิติเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งน่ากลัวกว่า โควิด 19 ต้องช่วยกันทุกมิติ "เราไม่ตายด้วยโควิด 19 มากนัก แต่จะเครียด อดตาย และทุกข์ตาย ….ครับ"

       – ช่วยกันเว้นระยะห่างบุคคล (Physical distancing) ~ > 2 เมตร ให้มากที่สุด ล้างมือ…ก่อนจับบริเวณหน้าตนเอง ล้างมือ…ก่อนและหลังจับ/สัมผัส กลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะ "กลุ่มเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย" เช่น คนสูงอายุ คนมีโรคประจำตัว คนปกติสวมหน้ากากผ้าก็พอแล้วครับ

       – ถ้าประชาชนร่วมมือ ทำตาม ทำได้ > 90 % เราชนะแน่นอนครับ โรคจะสงบ โรคติดต่ออื่นๆ ลดไปด้วยครับ (ปรับทัศนคติ ความรู้ พฤติกรรมการดูแลสุขภาพและป้องกันโรค ทำให้ยั่งยืน ต่อเนื่อง ครับ)

       – มองไปข้างหน้า โรคโควิด 19 จะหยุดระบาด จะสงบ โดยภูมิคุ้มกันธรรมชาติ ภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) หรือภูมิคุ้มกันมนุษย์ประดิษฐ์ เช่น วัคซีน ต้องเตรียมความพร้อม "วัคซีน" ครับ และที่สำคัญ ยา เตียง บุคลากร ต้องพร้อมในสถานการณ์เลวร้ายที่สุดเสมอ แต่ทำงานเชิงรุกและป้องกัน ครับ

       ทุกสิ่งทุกอย่างจะค่อยๆ ฟื้นกลับมาใหม่ เมตตาต่อกัน ช่วยเหลือกัน เราเป็นลูก "ในหลวง" สุดท้าย เราจะอยู่กับโควิด 19 ได้อย่างไม่มีปัญหา เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่มีการระบาดของโรคเอดส์ในอดีตที่น่ากลัวมากๆ (ถ้าท่านจำได้ สมัยแรกของการระบาดของโรคเอดส์) แต่ตอนนี้ ควบคุมได้ครับ

       เราวิ่งมาราธอน ไม่ใช่วิ่ง 100 เมตร บางช่วงต้องเร็ว บางช่วงออมแรง วันนี้และภายภาคหน้า อย่างน้อย 2 ปี….เราก็อยู่ของเรา โควิด 19 ก็อยู่ของมัน ป้องกันอย่าให้มันมาพบกับเรา ทั้งตั้งใจและบังเอิญ สำคัญที่สุดในวันนี้คือป้องกันการติดต่อและแพร่เชื้อ ควบคุมโรคให้เร็วที่สุด และป้องกันกลุ่มเสี่ยงครับ

       – ดำรงชีวิต ด้วย "หลักเศรษฐกิจพอเพียง" ครับ

       ขอบคุณ ผู้ปิดทองหลังพระ ชาว "มดงาน" อสม. หมออนามัย หมอ พยาบาล lab เจ้าหน้าที่ทุกคน นักระบาดวิทยาภาคสนาม และนักรบทุกท่านที่ "สู้" เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย และพี่น้องประชาชน ครับ

       นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง (10) นพ.ทรงคุณวุฒิ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข…ปฏิบัติราชการ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล"

       ต่อจากนี้ สถานการณ์โรคระบาดในประเทศไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป จะดีขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชนคนไทยทั้งประเทศนี่แหละค่ะ

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : tkvariety.com, ขอขอบคุณที่มาจาก : นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ