หมอพรทิพย์เตือน คนบินกลับไทย อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่

          จากกรณีที่ของเเมื่อวาน 3 เมษายนที่ผ่านมา มีกลุ่มคนไทยมากกว่า 100 คน เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และปฏิเสธที่จะเข้ารับการกักตัวตามมาตรการของรัฐบาล โอยอ้างว่าไม่รู้เรื่องการแพร่กระจายของโควิด จึงโวยวายถกเถียงกับเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเวลานานกว่า 4 ชั่วโมง กลางสนามบินสุวรรณภูมิ

          ล่าสุด แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ได้โพสต์ข้อความแสดงความเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้น อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของสถานการณ์โควิด ที่ต้องติดตาม ที่สำคัญทุกคนต้องระมัดระวังตัวให้มาก เพราะไม่รู้ว่าคนเหล่านี้ไปอยู่ที่ไหนบ้าง ในอีกด้านนั้น นี่คือสิ่งที่สะท้อนประเด็นสำคัญในการบริหารสถานการณ์วิกฤติ คือ เรื่องภาวะผู้นำ  โดยคุณหมอระบุผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัวว่า 

          สิ่งที่เกิดขึ้นอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของสถานการณ์โรคที่ต้องติดตาม ที่สำคัญทุกคนต้องระมัดระวังตัวให้มากเพราะไม่รู้ว่าคนเหล่านี้ไปอยู่ที่ไหนบ้างในอีกด้านนั้นคือสิ่งที่สะท้อนประเด็นสำคัญในการบริหารสถานการณ์วิกฤติคือเรื่องภาวะผู้นำที่ผู้รับผิดชอบในทุกระดับต้องมีความสามารถในการ Commandคือสั่งการ Control คือควบคุมงาน Coordinate คือการประสานแก้ปัญหา เพื่อให้งานเป็นไปตามนโยบาย นายกออกคำสั่งใช้พรกฉุกเฉินเต็มพื้นที่ประเทศ มีรายละเอียดมากมาย แต่หน่วยงานต่างๆนำไปสั่งการและปฏิบัติได้ขนาดไหนดูจากเรื่องที่ผู้โดยสารต่อต้านไม่ทำตามกฎหมายโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น รวมทั้งวิธีการกักตัว14วันที่น่าจะกลายเป็นการแพร่เชื้อมากกว่า[ads]

          อีกประเด็นปัญหาที่สำคัญคือระบบการสั่งการ บุคคลจากต่างหน่วยงานจะฟังคำสั่งใคร สิ่งที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ว่านายทหารไม่ฟังเจ้าหน้าที่สาธารณสุข สถานการณ์โรคครั้งนี้ใหญ่หลวงที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ง่าย เรามีเหตุการณ์การกระจายเชื้อโรคที่ไม่คาดคิดมาหลายเหตุการณ์คือสนามมวย การสังสรรค์ในผับ การไปปฏิบัติศาสนกิจที่มาเลย์อินโด ที่เพิ่มความรุนแรงของการกระจายโรคมาแล้ว และเที่ยวบินที่พาคนไทยกลับจากประเทศเสี่ยงที่ต่อต้านการบังคับใช้กฎหมายครั้งนี้จะกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อใหญ่อีกครั้ง ยังมีคนไทยจำนวนมากที่ไม่เข้าใจสถานการณ์โรค มีทั้งแกล้งไม่เข้าใจ มีทั้งไม่ใส่ใจ และมีทั้งตั้งใจต่อต้าน อย่าเอาแต่ด่าหรือตำหนิ สังคมปล่อยให้มีคนแบบนี้มานานมากแล้ว เขาตั้งใจหนีโรคร้ายกลับมาให้ทันก่อนปิดประเทศแต่กลับทำสิ่งนี้คือกรรมดำที่ดำสนิทเปรอะเปื้อนสังคม และมาเจอกับเจ้าหน้าที่ๆไม่รับผิดชอบ เราทุกคนต้องมีสติรู้จักป้องกันตัวเองและคนรอบข้าง ติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิดกันต่อไป

          สรุปสั้นๆคือ สิ่งที่เกิดขึ้น อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของสถานการณ์โควิด ที่ต้องติดตาม ที่สำคัญทุกคนต้องระมัดระวังตัวให้มาก เพราะไม่รู้ว่าคนเหล่านี้ไปอยู่ที่ไหนบ้าง ในอีกด้านนั้น นี่คือสิ่งที่สะท้อนประเด็นสำคัญในการบริหารสถานการณ์วิกฤติ คือ เรื่องภาวะผู้นำ

ขอขอบคุณที่มาจาก: Porntip Rojanasunan