หนุ่มงง ต้มหมูนานมาก แต่ยังเป็นสีชมพูอยู่เลย

             เชื่อว่าหลายคนก็เคยสงสัย ทำไมเนื้อหมูที่เรากินต้มเท่าไหร่ก็ยังมีสีแดงๆ และ บางชิ้นก็เป็นสีขาว ทำไมแตกต่างกันแบบนี้ เช่นล่าสุด มีสมาชิกในกลุ่ม กลุ่มคนรักบุฟเฟต์ ได้โพสต์ภาพหมู ที่มีสีแตกต่างกัน ซึ่งทางร้านแจ้งว่าฟิตเเข็งมากๆ เลยทำให้เป็นสีนี้ โดยเจ้าของภาพระบุว่า 

             สอบถามหน่อยครับ ต้มหมูนานมาก แต่ยังเป็นสีชมพูอยู่เลย เป็นปกติไหมครับ ส่วนอีกอันผมซื้อจากแมคเวลู ต้มเวลาเท่ากัน ก็ขาวสวย  ร้านบุฟเฟ่ต์ชื่อดัง สั่งกลับบ้านครับ อัปเดตนะครับ ทางร้านได้เเจ้งมาเเล้วครับว่า หมูที่สีแดงเพราะทางร้านสไลด์ตอนที่ฟิตเเข็งมากๆ เลยทำให้เป็นสีนี้ เท่าที่ผมจำได้นะครับ แต่ทางร้านยืนยันว่า ไม่ได้ใส่สารอะไรเข้าไป  ประมาณนี้ครับ

           ซึ่งมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเช่น มันสุกแล้วครับ แค่มันยังสีชมพู เนื้อสัตว์บางชนิด จะมีสีอมชมพู ไม่ใช่เพราะว่ามีเลือดอยู่ในเนื้อสัตว์นะครับ แต่มันเป็นสีของ “ฮีโมโกลบิน” จากเม็ดเลือดแดง ที่อยู่ในน้ำซึ่งเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่งของเนื้อสัตว์ซึ่งฮีโมโกลบิน เมื่อเจอความร้อนโดยตรง จะทำให้มันเปลี่ยนสีเป็นสีคล้ำๆครับ เลยเป็นที่มาว่า ทำไมเนื้อที่สุกจึงไม่มีสีแดง แต่กรรมวิธีการปรุงอาหารบางอย่าง หรือการหมักอาหารก่อนปรุง จะเป็นกระบวนการป้องกันการสูญเสียน้ำจากเนื้อสัตว์ หรือลดการสัมผัสความร้อนโดยตรงพอน้ำของเนื้อหมูไม่โดนดึงออกมา และไอ้น้ำนั่นมันมีฮีโมโกลบิน มันก็เลยยังอมชมพูอยู่

ชาวเน็ตบอก[ads]

หมูสามชั้นจะเป็นสีขาว เบคอนจะเป็นสีแดง

สารที่ทำให้หมูนุ่ม

ใส่สารเยอะ

             ซึ่งส่วนมากแล้วจะบอกว่าเกิดจากการใส่ฟอสเฟตหรือเบกกิ้งโซดา ซึ่งมันจะช่วยไม่ให้น้ำจากหมูไหลออกมา โดยเฉพาะเมื่อเวลาเนื้อสัตว์ถูกความร้อน นั่นแหละว่า เวลานำไปปิ้ง หมูจะชุ่มฉ่ำอยู่เสมอเหมือนปิ้งแล้วรู้สึกหมูไม่สุกตลอดเวลา และทำให้อิ่มไว เพราะกินหมู 1 ชิ้นเหมือนกินน้ำไปอีกประมาณ 50% ของน้ำหนักหมู ก็อิ่มไวกันไป และมันเป็นโซเดียม ร่างกายจะต้องการน้ำอัตโนมัติเราก็อัดน้ำเข้าไปอีก ก็อิ่มไวเร็วไปอีก แต่สักแป๊บเดียวก็หิวเหมือนเดิม ถ้าต้องไปกินหมูกระทะแต่อยากเลี่ยงสารพวกนี้ ดูเป็นพวกหมูสไลด์ หมูสดแทนได้ครับ ลูกชิ้น ไส้กรอก ปูอัด แหนม อะไรพวกนี้ก็ใส่ฟอสเฟตมิกซ์เหมือนกันนะ ลองดู อาการอิ่มไวอาจจะหายไป

ขอขอบคุณที่มาจาก: Adoonsak Ngernthong