โซเชียลแห่แชร์ภาพหญิงคนหนึ่ง ขึ้นป้ายไว้นิลขนาดใหญ่ ระบุข้อความว่า ใครพาไปเจอ ลุงตู่ นายกรัฐมนตรีได้ จะให้เงิน 5 หมื่นบาท ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ พบว่าหญิงในคลิป เป็นเจ้าของรับ-ซื้อมะพร้าว เธอเผยว่าทำไปเพราะประชด หมดหนทาง
นางสาว พิจิตรา แก้วนพ เป็นเจ้าของธุรกิจรับ-ซื้อมะพร้าว เธอระบุว่าเป็นผู้เสียหายที่ถูกโรงงาน น้ำมะพร้าวของชาวต่างชาติโกงเงินกว่า 500,000 บาท และพาไปดูป้ายไวนิลความยาวขนาด 2 เมตร ที่จัดทำขึ้น และถูกนำมาติดตั้งในพื้นที่ต่างๆรอบอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร รวม 7ป้าย แต่ละป้ายระบุข้อความว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการส่งสินค้าให้โรงงานแล้วไม่ได้รับเงิน หลังจากถูกโก งได้เดินทางไปร้องเรียนต่อหน่วยงานรัฐ 6-7 แห่ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า
น.ส.พิจิตรา นำเอกสารต่างๆ มายืนยันเล่าว่า เดือนมี.ค.ปี 2563 เธอถูกว่าจ้างให้นำรถ 6 ล้อ ไปเก็บเศษมะพร้าวในโรงงาน ได้รับค่าจ้างประมาณ 4000 บาทต่อวัน โดยถูกจ้าง2-3วันต่อสัปดาห์ ในช่วงแรกทางโรงงานก็จ่ายเงินตามที่ตกลงไว้ แต่ช่วงหลังเริ่มบ่ายเบี่ยงโดยอ้างว่าเงินยังไม่ถูกส่งมาจากเจ้าของที่เป็นชาวต่างชาติ และค้าง ค่าจ้าง เป็นจำนวนเงินถึง 63,500 บาท ด้วยความที่โรงงานค่อนข้างใหญ่และน่าเชื่อถือตนเองจึงปล่อยผ่านและคิดว่าคงจะได้เงิน
ต่อมาเดือนส.ค. 2563 พนักงานโรงงานดังกล่าว ได้ชักชวนให้ทำธุรกิจส่งมะพร้าวให้โรงงาน เสนอราคาลูกละ17บาท รับรอบละ7พันลูก เป็นจำนวนเงินกว่า 100,000 บาท โรงงานจ่ายตรงตามที่ตกลงไว้ใน 2 รอบแรก แต่หลังจากนั้นเธอได้ส่งมะพร้าวให้กับโรงงาน อีก 5 รอบ โรงงานเริ่มบ่ายเบี่ยงและอ้างว่ารอเงินจากต่างประเทศเหมือนเดิม ซึ่งรวมแล้วมียอดค้างจ่ายรวม 555,238 บาท เมื่อทวงถามกลับไปอีกหลายครั้งทั้งโรงงานกลับบอกว่าให้ไปฟ้องเอง
ตนเองจึงตัดสินใจไปแจ้งความไว้ที่สภ.โคกขาม จังหวัดสมุทรสาคร และเดินหน้าร้องเรียนกับหน่วยงานรัฐ เช่น ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด อบต.โคกขาม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือ แต่ก็ไม่เป็นผลคดีไม่มีความคืบหน้า จึงตัดสินใจติดป้ายประกาศหาคนพาไปร้องเรียนกับนายกรัฐมนตรี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และบุคคลที่มีชื่อเสียง เพราะไม่รู้จะมีวิธีไหนที่จะสามารถได้เงินคืนจากโรงงานที่โกงเงินไป และเมื่อถามว่าถ้ามีคนพาไปเจอนายกฯ ตัวจริงได้ จะยังมอบเงินรางวัล 5 หมื่นให้ตามที่ปะกาศไว้หรือไม่ เธอบอกว่าเธอให้จริง ถึงไม่มีเงินก็จะมาหาให้[ads]
ระหว่างที่สอบถามเรื่องราวของน.ส.พิจิตรา ยังได้พบกับผู้เสียหายอีกรายที่ถูกโรงงานดังกล่าวโกงเงินค่าส่งมะพร้าว จนสูญเงินกว่า4 ล้านบาท คือนางมาลี รัตนากร เล่าว่า เริ่มทำธุรกิจส่งมะพร้าวให้กับโรงงานแห่งนี้ตั้งแต่ปี 2557 โดยติดต่อซื้อขายโดยตรงกับ 2 สามีภรรย าชาวต่างชาติ ที่คาดว่าเป็นเจ้าของโรงงาน ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา

ช่วงปี 2560 ทางโรงงานเริ่มไม่จ่ายเงินตามเวลาที่กำหนด จนยอดค้างชำระประมาณ 4ล้าน 4แสนบาท ซึ่งเมื่อสอบถามไปยังเจ้าของโรงงานก็ระบุว่าจะจ่ายให้แต่ขณะนี้ยังมีปัญหาทางการเงิน โดยตนเองไม่รู้จะทำยังไงเพราะก็ต้องกู้นี่ยืมสินมาทำธุรกิจเช่นเดียวกัน ขณะที่ผู้เสียหายระบุว่าหลังจากติดป้ายรอบอำเภอบ้านแพร้ว ล่าสุด นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้ติดต่อกลับมาว่าจะเข้ามาความช่วยเหลือเรื่องคดีแล้ว
ขอขอบคุณที่มาจาก: pptvhd36