กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อีกแล้ว เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 62 ตนเองได้ส่งพัสดุผ่านบริการส่งของทางไปรษณีย์ บริการส่งด่วน (EMS) ไปยัง จ.น่าน ผ่านต้นทางที่เคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์ไทย สาขาปตท.บรมราชชนนี (ขาเข้า) 
ซึ่งภายในพัสดุมีสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนกว่า 400 ชุด รวมมูลค่าประมาณ 33,000 บาท โดยมีการลงทะเบียนตามระบบเพื่อตรวจสอบสถานะถูกต้องทุกขั้นตอน แต่จนถึงปัจจุบัน ระยะเวลาผ่านไปนานกว่า 10 วัน ผู้รับก็ยังไม่ได้รับพัสดุดังกล่าว ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนเองเคยส่งพัสดุที่เป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง และมีการส่งที่สาขานี้ ซึ่งตนเองก็ไม่เคยพบปัญหา กระทั่งครั้งล่าสุด
โดยหลังเกิดเหตุได้พยายามติดต่อไปยังไปรษณีย์ไทย ทั้งสาขาต้นทาง และ ปลายทาง แต่กลับได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จึงเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สน.ตลิ่งชัน เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 62 และจากการเจรจากับบริษัท ไปรษณีย์ไทย เบื้องต้น ระบุว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้กับตนเองเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท แต่ตนเองขอปฏิเสธเนื่องจากสิ่งของที่สูญหายไปนั้น มีมูลค่าถึง 33,000 บาท นอกจากนี้ ยังพบว่าคดีไม่มีความคืบหน้า หรือ ความชัดเจนใด ๆ อีกด้วย
พอสอบถามไปยัง หัวหน้า ปณ.ต้นทางสาขาปตท.บรมราชชนนี (ขาเข้า) ได้รับการเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบหาจุดบกพร่องว่าพัสดุดังกล่าวหายไปในขั้นตอนใด แต่ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าจะเกิดจากการนำส่งของต้นทาง ซึ่งตนเองได้ให้ผู้เสียหายตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว 
ทั้งนี้ ไม่สามารถตอบได้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใด เพราะขึ้นอยู่กับกระบวนการตรวจสอบภายในขององค์กร ส่วนปณ.ปลายทางสาขาเด่นชัย นั้น อ้างว่าเจ้าหน้าที่จะไม่มีการเปิดถุงของที่นำส่งมา ซึ่งจากการตรวจสอบถุงดังกล่าว พบว่ามีพัสดุสูญหายไปตั้งแต่เปิดถุง และเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งเรื่องไปยังต้นทางตั้งแต่เปิดถุงแล้วว่าของไม่ครบ 1ชิ้น
ใบแจ้งความ
สำหรับเรื่องนี้ก็คงต้องรอติดตามความคืบหน้าดูกันต่อไปเพราะเจ้าของลอตเตอรี่ซึ่งเป็นผู้เสียหายนั้นได้เข้าไปแจ้งความแล้ว เพราะความเสียหายจากลอตเตอรี่ที่หายรวมมูลค่าประมาณ 33,000 บาท
ขอขอบคุณที่มาจาก : innnews.co.th
