สาวเผยประสบการณ์ ติดเชื้อ ดูแลตัวเองเบื้องต้นระหว่างรอเตียงรักษา

       ในตอนนี้สถานการณ์โรคระบาดยังคงน่าเป็นห่วง ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เตียงของโรงพยาบาลเริ่มไม่เพียงพอ หลายคนต้องกักตัว ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่ยังต้องรักษาตัวอยู่ที่บ้านเพื่อรอเตียงว่างในการเข้ารับการรักษา

       ในขณะที่รอเตียงหรือรอรับการรักษา หลายๆคนก็ต้องพยายามดูแลตัวเอง รักษาตัวเองเบื้องต้น เช่นเดียวกับผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Wanida Saorod ที่ได้มาเล่าประสบการณ์ การดูแลตัวเองเบื้องต้นหลังจากติดเชื้อ ระบุว่า

       "ขอแชร์ประสบการณ์สำหรับการดูแลตัวเองเบื้องต้นระหว่างรอเตียง : เล็กเริ่มรู้สึกไม่สบายตั้งแต่ประมาณวันที่ 13/7/64 พอเย็นวันที่ 14 ได้รู้ว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง หลังจากนั้นพยายามหา รพ.ตรวจก็ยังหาไม่ได้ แต่เบื้องต้นได้หาเตรียมยาที่จำเป็นไว้ก่อน ตามภาพด้านล่างเลยจ้า และหลังจากนั้นก็กินแต่น้ำอุ่น

        : วันที่ 16 ได้ไปตรวจครั้งแรกที่ รพ.มงกุฏวัฒนะ ให้รอผล 2-3 วัน เย็นวันที่ 16 เริ่มมีอาการไอ เจ็บหน้าอก จมูกได้กลิ่นไม่ชัดเจน และแอบคิดแล้วว่ายังงัยก็ติดแน่ ได้บอกกับพี่วิน พี่วินรีบหาน้ำกระชายมาให้และให้กินเลย 1 ขวด และโทรหาแม่ แม่ก็รีบหาสมุนไพรส่งมาให้ ใช้เวลาแค่ 1 วัน ถึง

       : วันที่ 17 อาการแย่ลงไอและเจ็บหน้าอกมากขึ้น จมูกไม่ได้กลิ่นอะไรเลย เลยตัดสินใจ ไป รพ.กรุงไทย เพราะมีโรคประจำตัวอยู่ด้วย ได้ตรวจและเอ็กสเรย์ปอดทันที และผลปอดออกมาว่ามีเชื้อ แต่ต้องรอผลแลปยืนยันก่อนประมาณ 5 วัน หมอได้ให้ยาฆ่าเชื้อ และยาแก้ไอละลายเสมหะ แก้ปวดลดไข้มาไว้ให้กินตามอาการก่อน

        : วันที่ 17 ช่วงบ่ายสามีเริ่มไม่สบาย อาเจียน พอวันที่ 19 ให้นางไป SWAP รอผล 5 วันเช่นกัน และอาการนางก็เริ่มน่าเป็นห่วง ปวดหัวมาก เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียนบ่อยมาก ไอ มีเสมหะ กินอะไรก็เค็มไปหมด

        : วันที่ 18 รพ.มงกุฏแจ้งกลับมาว่าผลเป็นบวก เล็กตัดสินใจยังไม่ไป รพ.สนามของมงกุฏ อยากรอผลและเตียงที่กรุงไทยก่อนจะดีกว่าบวกกับเป็นห่วงสามีด้วยกลัวไม่มีคนดูแล เพราะแอบคิดไว้แล้วว่ายังงัยนางก็ติดเหมือนกัน #ระหว่างที่รอผลและเตียงก็ดูแลตัวเองกันเบื้องต้น

       1.กินยาที่หมอให้มา และกินยาตามอาการ และให้กินแต่น้ำอุ่น

       2.กินยาฟ้าทะลายโจร วันละ 3 เวลา วันที่รู้สึกว่าอาการหนัก กินครั้งละ 5 เม็ด เล็กกินแบบนี้ 2 วัน แต่ห้ามกินติดต่อกันเกิน 5 วัน

       3.วิตามิน C เช้าเย็น

       4.ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ

       5.ขิงสดหั่นเป็นแว่นกับกระชายทุบต้มกินน้ำ ผสมน้ำตาลนิดหน่อย พอให้กินง่ายขึ้น กินได้ตลอด

       6.ต้มสมุนไพรที่แม่ส่งมาให้ 1.หัวไพร 2.กระชาย 3.ใบมะกรูด 4.ผลมะกรูด 5.หัวหอม 6.ตะไคร้ 7.ตะไคร้หอม 8.ขิงแก่ 9.ใบ ส้มโอ ต้มให้เดือดแล้วคลุมตัวสูดดมกลิ่น ใช้เวลาแระมาณ 15 นาที ทำแบบนี้ เช้า-เย็น ทุกวัน

       7.ฉีดสเปร์ฆ่าเชื้อในห้องรวมถึงห้องน้ำบ่อยๆ

       : หลังจากที่ดูแลตัวเองแบบนี้ ประมาณ 3 วัน อาการไอและเจ็บหน้าอกดีขึ้น มีก็แต่หายใจเหมือนไม่อิ่ม แต่ไม่รุนแรงอาจเพราะเล็กเป็นโรคหอบอยู่ด้วย วันที่ 4 จมูกกลับมาได้กลิ่นแต่ยังไม่ 100%

        ส่วนสามีเล็กได้ให้ทำทุกอย่างเหมือนกัน ด้วยสมุนไพรแต่ต้องระวังเรื่องยาเพราะนางกินยาฆ่าเชื้อและแก้อักเสบไม่ได้นางแพ้รุนแรง เวลากินยาแก้ปวดไมเกรนก็จะให้กินแก้แพ้ตามทันที กินยาแก้ไอละลายเสมหะ ส่วนอาการอาเจียนหนักก็ให้กินยาแก้อาเจียนและเกลือแร่ช่วย พอประมาณวันที่ 21/7 อาการนางก็ดีขึ้นมาบ้าง แต่ยังติดที่กินอะไรก็เค็มอยู่

       : ผลเล็กออกวันที่ 22 ได้เตียงคืนวันที่ 24 แต่ช่วงนั้นอาการเล็กก็แทบจะปกติทุกอย่างแล้ว พอไป รพ.หมอจะจ่ายยาไว้ให้คนไข้ทุกคนเอาไว้กินตามอาการก่อน และให้รักษาด้วยการ กินยาฟาวิพิราเวียร์ จนครบ ระว่างนั้นจะมีการเอ็กสเรย์ปอด และเจาะเลือดแบบวันเว้นวัน จนแน่ใจว่าเราปกติดีแล้ว

       : ผลสามีออกวันที่ 24 ที่จริงนางได้เตียงตั้งแต่วันที่ 25 แต่นางขอเลื่อนเป็นวันที่ 26 (อันนี้ก็งงกับผัวเหมือนกันมีแต่คนอยากได้เตียงเร็วๆ) พอสามีได้ไป รพ.วันที่ 2 นางก็รู้รสชาติปกติดีแล้วทุกอย่าง ขั้นตอนการรักษาก็เหมือนกัน

       :เล็กได้ใช้เวลานอนรักษาตัวที่ รพ.กรุงไทย-ปทุมเป็นเวลา 7 วัน ส่วนสามีแค่ 6 ระหว่างที่อยู่รักษาตัวที่ รพ.ทางรพ.ดูแลเอาใจใส่คนไข้เป็นอย่างดี ก่อนออกจาก รพ.พยาบาลก็ได้ให้ความรู้และแนะนำวิธีการดูแลตัวเองและคนรอบข้างไว้เป็นอย่างดี

        :ตอนนี้เราทั้ง 2 คน หายปกติดีแล้วกลับมากักตัวที่ห้องต่ออีก 14 วัน ต้องขอขอบคุณทุกความห่วงใยและทุกคนที่ช่วยเหลือที่คอยให้คำแนะนำเล็กกับแฟนมาตลอดนะคะ#เก็บไว้เตือนความทรงจำ"

       หลายๆท่านที่ยังคงต้องรอเตียงกันอยู่ ก็อาจจะต้องพยายามดูแลตัวเองเบื้องต้น เพื่อไม่ให้อาการลุกลามไปมากกว่าเดิม หรือเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตให้น้อยที่สุด

เรียบเรียงเนื้อหาโดย : tkvariety.com, ขอขอบคุณที่มาจาก : Wanida Saorod