ซื้อของออนไลน์โดนหลอกอีกแล้ว เห็นภาพในโฆษณาโพสต์ขายพอได้มาแล้วไม่ตรงปก หรือได้มาไม่ครบ คืนเงินไม่เต็มจำนวน ล่าสุดมีลูกค้าท่านหนึ่งได้ ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่าตนได้สั่งซื้อโทรศัพท์มือยี่ห้อดัง สีชมพู มาจากเพจเฟซบุ๊กชื่อ "ขายถูก โทรศัพท์มือถือ ในราคาถูก แต่พอถึงมือกับไม่ตรงปก
นักศึกษาอาชีวะแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่าตนได้สั่งซื้อโทรศัพท์มือยี่ห้อดัง สีชมพู มาจากเพจเฟซบุ๊กชื่อ "ขายถูก โทรศัพท์มือถือ มือ 1" ในราคา 2,790 บาท เพิ่มค่าส่งอีก 100 บาท สั่งซื้อแบบจ่ายเงินปลายทาง
ต่อมาวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมาของได้มาส่งที่ตนจ่ายเงินรับของมาเปิดกล่องพัสดุตรวจสอบพบใบรับประกันสินค้าแต่เมื่อเปิดเครื่องใช้งานก็พบว่าเครื่องมีปัญหาผิดปกติหลายอย่างเช่นปุ่มสัมผัสค้าง หน้าจอเลื่อนติดขัด ลำโพงเบา และไฟฉายไม่ค่อยติด ตนเชื่อว่าเป็นของก๊อปหรือของไม่มีคุณภาพ จึงติดต่อขอคืนของแต่พบว่าเพจดังกล่าวถูกปิดไปแล้ว
ตนเชื่อว่าทางร้านมีเจตนาหลอกลวง ตนรู้สึกเสียใจมากแม้ว่าราคาสินค้าอาจจะไม่สูงแต่ก็เป็นเงินที่ตนตั้งใจเก็บสะสมเองเพื่อนำเครื่องมาใช้งาน ตนขอเตือนผู้ที่ชอบซื้อของออนไลน์ให้ระมัดระวังและตรวจสอบให้ละเอียดเพราะอาจจะถูกหลอกหรือได้ไร้คุณภาพ หากเป็นไปได้ควรไปซื้อที่ร้านดีกว่าเพราะจะได้เห็นและทดลองสินค้าเลย อย่างไรก็ตามตนอยากให้ทางเพจออกมาแสดงความรับผิดชอบและคืนเงินให้ด้วย แต่หากไม่ติดต่อมาก็จะนำหลักฐานไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้เราจึงขอแนะนำหากเกิดเหตุเกี่ยวกับการซื้อของออนไลน์ แล้วยังไม่อยากดำเนินคดีความ แต่อยากได้ที่ปรึกษา โทรหา 1212 เพื่อขอคำแนะนำเบื้องต้นได้ และดำเนินการประสานยังไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่
-สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
-สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ( DBD )
-กองป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ปท.)
-กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)
ขั้นตอนการฟ้องร้องขอเงินคืน เพื่อแจ้งความ โดนหลอกโอนเงิน โดยต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “ประสงค์ขอแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย” ไม่ใช่แค่ลงบันทึกประจำวัน โดยเตรียมหลักฐาน ดังนี้[ads]
1. บัตรประชาชนของผู้แจ้ง/ผู้เสียหาย
2. หน้าประกาศ/ข้อความโฆษณาขายสินค้าใน Web Board, Page, facebook, instagram, Line ที่โพสต์ขายสินค้าและทำให้หลงเชื่อ
3. หลักฐานการโอนเงิน เช่น สลิปโอนเงิน, statement, mobile banking
4. หลักฐานในการติดต่อซื้อขายสินค้า พูดคุยต่างๆ เช่น ข้อความแชต(chat) ที่สั่งซื้อสินค้า, หมายเลขโทรศัพท์, ข้อความ(sms), email address ,Line ,messenger facebook เป็นต้น
5. ข้อมูลผู้ขายสินค้าหรือผู้ร่วมขบวนการ เช่น ชื่อสกุล , หมายเลขบัญชีธนาคารที่โอนเงินไปให้, หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ, ที่อยู่ เป็นต้น
6. หลักฐาน/ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ในการดำเนินคดี
เพียงคุณรวบรวมหลักฐานจากการถ่ายภาพ และไปที่ศาลในเขตพื้นที่อำนาจใกล้บ้านของคุณ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ศาลเป็นผู้เขียนคำร้องให้ตามกฎหมายคุ้มครองบริโภคที่กำหนดว่าเจ้าหน้าที่ศาลจะดำเนินการเขียนคำร้อง พร้อมกับนัดโจทก์มาไกล่เกลี่ยกับเราภายใน 30 วัน หากเรื่องราวสามารถตกลงได้ในขั้นไกล่เกลี่ยได้ที่ศาลก็จะได้รับเงินคืนตามข้อตกลง รวมถึงค่าเสียเวลาที่สามารถเรียกร้องได้
หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่หลายท่าน และเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่ซื้อของออนไลน์ ถ้าราคาถูกให้ทำใจไว้ก่อนจ้า และถ้าเจอเหตุการณ์เช่นนี้ เกี่ยวกับการซื้อของออนไลน์ แล้วยังไม่อยากดำเนินคดีความ แต่อยากได้ที่ปรึกษา โทรหา 1212 เพื่อขอคำแนะนำเบื้องต้นได้
เรียบเรียงโดย: tkvariety ขอขอบคุณที่มาจาก: ข่าวสด