สาวร้อง ที่ดินกำลังโดนยึด เหตุปู่เอาฉโนดประกันตัวญาติ แต่ร้อยเวรนำไปกู้เงิน

          สาวเข้าร้องเรียน ปู่เอาฉโนดที่ดินประกันตัวญาติ และตอนนี้กำลังจะโดนยึด เหตุร้อยเวรเอาไปกู้เงิน แล้วไม่ยอมจ่ายก่อนหน้านี้เธอได้ทำการโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม โดยระบุว่า

            “ขอความเป็นธรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะคะ เริ่มต้นจากเมื่อต้นปีที่แล้ว มีคนมาขอให้ก๋ง (คุณปู่) ช่วยประกันตัว (ซึ่งเป็นญาติ) “ด้วยความที่ก๋งเห็นว่าลูกชาวของเขาเรียนอยู่ จึงยื่นมือให้ความช่วยเหลือ นำโฉนดที่ดินไปประกันตัว แต่เมื่อเรื่องราวผ่านไปเกือบปี อยู่ๆ ทางด้านก็ได้รับหมายเรียก จึงได้รู้ว่าโฉนดนั้นไม่ได้ถูกนำไปประกันตัว แต่ถูกนำไปกู้เงินเป็นจำนวน 500,000 บาท”

            “และตัวหนู ซึ่งเป็นหลานเจ้าของโฉนด ก็ได้ลองตรวจสอบดูชื่อคนที่ไปกู้ ปรากฎว่าเป็นตำรวจยศ “ร.ต.อ.” ของโรงพักแห่งหนึ่งใน จังหวัดตราด ซึ่งเป็นเจ้าของคดีที่ก๋งไปประกันตัว” “แล้วในหนังสือมอบอำนาจก็ไม่ใช่ลายมือของก๋ง และตอนนี้ทางเราโดนฟ้อง เรื่องผ่านมา 1 เดือนแล้ว ทางเราไม่ได้รับความเป็นธรรม คนแก่กินไม่ได้นอนไม่หลับ ทำกันได้ลงคอ คุณเป็นตำรวจที่จะต้องดูแลประชาชน แต่ทำไมถึงทำแบบนี้”

            “ทนายของคนปล่อยกู้ก็โทรมาเร่ง บอกว่าถ้าไม่มีเงินมาไถ่โฉนดก็จะยึดที่ แต่ครอบครัวเราไม่ได้รับรู้เรื่องนี้เลยต้องมารับผิดชอบ ตัวหนูเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เข้าออกโรงพักตลอด แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ขอความเห็นใจด้วยค่ะ”

         นางสาวอังศิริน เล่าว่า เมื่อประมาณต้นปี 2563 มีญาติชื่อนายสุภัทร วงษ์ทอง มาขอความช่วยเหลือจาก นายจเร เศษนิยม อายุ 74 ปี ปู่ ซึ่งเธอเรียกว่าก๋ง ให้ช่วยประกันตัวคดีบุกรุกยามวิกาลและอนาจาร ซึ่งด้วยความสงสารเห็นว่าคนที่มาขอความช่วยเหลือมีลูกที่ต้องเลี้ยงดู ปู่จึงให้โฉนดที่ดินเนื้อที่ 28 ไร่ ไปเป็นหลักทรัพย์ประกันตัว

          ปรากฏว่า เวลาผ่านไปเกือบ 1 ปี จนวันที่ 1 มกราคม 2564 กลับมีหมายศาลมาถึงบ้านว่า นำที่ดินไปจำนองแล้วขาดส่งดอก ถูกฟ้อง   เป็นจำเลย โดยในหมายศาลระบุชื่อนายพิชัย วิสุทธิแพทย์ อายุ 54 ปี อดีตนายกเทศมนตรีตำบลหนองเสม็ด เป็นโจทก์ฟ้องนาย จเร เศษนิยม อายุ 74 ปี เป็นจำเลย โดยมีใจความว่านายจเร เศษนิยม ได้นำที่ดินไปจำนองกับนายพิชัย วิสุทธิแพทย์ จำนวน 500,000 บาท เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ตกลงจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี และส่งดอกเบี้ยเดือนละครั้ง โดยที่ผ่านมาได้ชำระหนี้ 2 ครั้ง คือเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2563 จำนวน 15,000 บาท แบ่งเป็นดอกเบี้ย 6,250 บาท เงินต้น 8,750 บาท และเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563 อีก 1 ครั้ง จำนวน 15,000 บาท แบ่งเป็น ชำระดอกเบี้ย 6,140 บาท ชำระเงินต้น 8,860 บาท คงเหลือยอดเงินต้นอีก 482,390 บาท จากนั้นก็ขาดส่งจนถูกฟ้องเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2563

         นอกจากนี้ ยังมีหนังสือมอบอำนาจและหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน กำหนด 1 ปี ส่งมาเป็นหลักฐานด้วย โดยในหนังสือสัญญามอบอำนาจ ระบุว่านายจเร เศษนิยม เป็นผู้มอบอำนาจให้ ร.ต.อ.กันตภณ สักขาพรม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตราด (ผู้เป็นเจ้าของคดีของนายสุภัทร วงษ์ทอง) เป็นผู้รับมอบอำนาจ นำที่ดินไปจำนอง เป็นจำนวน เงิน 5 แสนบาท โดยมีนายสุภัทร วงษ์ทอง ญาติที่เดือดร้อนไปขอความช่วยเหลือจากนายจเร เศษนิยม เซ็นเป็นพยานในหนังสือมอบอำนาจ

         นางสาวอังศิริน เศษนิยม ผู้เป็นหลาน เมื่อเห็นลายเซ็นผู้มอบอำนาจ คือ ปู่ หรือ นายจเร เศษนิยม ในหนังสือก็รู้ทันทีว่าไม่ใช่ลายเซ็นของปู่ น่าจะมีการปลอมแปลงลายเซ็น จึงพานายจเร เศษนิยม มาแจ้งความลงบันทึกที่ สภ.เมืองตราด กับพนักงานสอบสวน ร.ต.ท.จักรพงษ์ วงค์กุลพิลาศ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตราด ว่านายสุภัทร วงษ์ทอง ได้นำโฉนดที่ดินมาทำเรื่องกับกรมที่ดิน ทำให้นายจเร เศษนิยม ได้รับความเสียหาย แจ้งความไว้เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2564[ads]

         จากนั้นในวันที่ 3 ม.ค. 2564 ร.ต.อ.กันตภณ สักขาพรม ได้เดินทางเข้าไปพูดคุยขอเจรจากับ นายจเร เศษนิยม และได้ทำหนังสือสัญญาที่เขียนด้วยมือ มีใจความว่า “ข้าพเจ้า ร.ต.อ.กันตภณ สักขาพรม ขอให้คำมั่นกับนาย จเร เศษนิยม ต่อหน้านายสมบูรณ์ แพทย์นุสนธิ์ กำนันตำบลเนินทราย อ.เมืองตราด และนายสุภัทร วงษ์ทอง ว่าจะนำโฉนดที่ดินมามอบให้กับนายจเร เศษนิยม ภายในวันที่ 7 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 14.00 น. ที่สำนักงานที่ดินตราด โดยมีการเซ็นชื่อมีลายลักษณ์อักษรครบถ้วน จากนั้นในวันที่ 4 ม.ค. 2564 นายจเร เศษนิยม ก็เดินทางเอาหนังสือดังกล่าวมาแจ้งความลงบันทึกเป็นหลักฐานไว้ แต่เมื่อถึงเวลา วันที่ 7 มกราคม ร.ต.อ.กันตภณ สักขาพรม ก็ไม่ได้นำโฉนดมาคืน กลับผัดวันประกันพรุ่งเรื่อยมา

         นางสาวอังศิริน เศษนิยม ยังเล่าอีกว่า จนกระทั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 64 ศาลได้นัดชี้สองสถาน และกำหนดแนวทางดำเนินคดีหรือสืบพยานโจทก์ ตนเองก็ไปตามหมายศาลจังหวัดตราด แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โรคระบาดโควิด ศาลจึงเลื่อนแต่ก็ยังไม่เห็นหนังสือว่าเลื่อนไปเมื่อไหร่ ซึ่งตนเองเป็นกังวลมาก รวมทั้งนายจเร เศษนิยม อายุ 74 ปี ปู่ พอทราบเรื่องนี้ก็เครียดนอนไม่หลับ ส่วนคุณย่า อายุ 72 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจ พอทราบเรื่องก็อาการเริ่มไม่ดี ตนไม่รู้จะไปพึ่งใคร เพราะพ่อกับแม่แยกทางกัน ตนอาศัยอยู่กับปู่ย่ามาตั้งแต่เล็ก ปู่ย่าก็อายุเยอะไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมาย ตนต้องคอยติดตามเรื่อง อีกทั้งยังต้องไปโรงเรียนด้วย เมื่อเห็นหมายศาลมาก็กลุ้มใจไม่รู้จะปรึกษาใคร จึงโพสต์ขอความช่วยเหลือไปในเฟซบุ๊ก

         ตอนนี้มี นายวศิน พงษ์ศิริ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทราบเรื่องได้เดินทางมารับฟังปัญหาให้คำปรึกษา รับเรื่องและจะดำเนินการให้การช่วยเหลือ ยังไงก็ขอให้ได้รับความเป็นธรรมนะคะ 

ขอขอบคุณที่มาจาก: thairath