วุ่นทั้งอำเภอ หนุ่มกรุเรื่องติดเชื้อโควิด ก่อนโทรบอกแม่หนีออกจาก รพ.

           วันที่ 27 มีนาคม 2563เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ระนอง รับแจ้งจากชาวบ้านหินช้าง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง ได้รับโทรศัพท์จากลูกชายว่า ตอนนี้ตนได้ติดเชื้อโควิดและได้หนีออกมาจากโรงพยาบาลภูเก็ต กำลังนั่งรถกลับไประนอง จึงขอช่วยให้ตนมารับที่ บขส.ระนอง พร้อมเพื่อนอีก 2 คน ที่ติดเชื้อเหมือนกันเดินทางมาด้วย หลังรับแจ้งจึงได้ประสาน นายแพทย์สาธิต ทิมขำ สสจ.ระนอง พร้อมสนธิกำลังตำรวจและปกครอง เพื่อรอรับตัวผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด ที่ บขส.ระนอง

           จากการตรวจสอบทราบชื่อ นายณัฐชัย หวังกอ อายุ 23 ปี พร้อมกับตรวจสอบข้อมูลผู้ป่วยหลบหนี และรายชื่อผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด เบื้องต้นไม่พบรายชื่อของนายณัฐชัยอยู่ในฐานข้อมูลผู้ติดเชื้อของจังหวัดภูเก็ต แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมเต็มที่จนกระทั่งเวลา 23.50 น. รถบัสโดยสาร ภูเก็ต-ระนอง ได้มาถึง บขส.ระนอง โดยมี นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผวจ.ระนอง พร้อมด้วยนายแพทย์ สสจ.ระนอง , ผกก.สภ.ระนอง และกำลังพลฝ่ายตำรวจ ,ฝ่ายปกครอง และชุดสอบสวนโรค รวมกว่า 50 คน

           จากนั้นชุดสอบสวนโรค ที่แต่งกายอยู่ในชุดป้องกันเชื้อไวรัส ได้เดินขึ้นไปบนรถบัสโดยสารเพื่อทำการซักถามนายณัฐชัย โดยมีนายแพทย์สาธารณสุข ได้พูดคุยซักถามผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ขณะที่นายแพทย์กำลังเริ่มซักถาม นายณัฐชัย ได้ยอมรับสารภาพว่า เรื่องทั้งหมดที่โทรศัพท์ไปคุยกับแม่นั้น เป็นเรื่องโกหก ตนเองไม่ได้ติดเชื้อไวรัสแต่อย่างใด[ads]

           จากการสอบสวน นายณัฐชัย ได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนได้โทรศัพท์ไปหาแม่ของตน โดยบอกว่าได้ไปตรวจร่างกายและหมอบอกว่าติดเชื้อโควิด กำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลภูเก็ต แต่ทนที่หมอเจาะเลือดไม่ไหว จึงได้หลบหนีออกมาจากโรงพยาบาล พร้อมกับเพื่อนที่ติดเชื้อเหมือนกันอีก 3 คน เพื่อจะกลับบ้านพักที่ระนอง โดยให้แม่ของตนไปรอรับที่ บขส.ระนองส่วนเพื่อนอีก 3 คนที่ติดเชื้อ ก็ไม่เป็นความจริง โดยตนเองเดินทางมาเพียงคนเดียว

           อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจและอส.ปกครอง ได้ให้ผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ประจำรถทุกคนลงมาจากรถ ทำการลงบันทึกประวัติ พร้อมกำชับให้ไปรายงานตัวกับผู้ใหญ่บ้าน อีกทั้งให้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด

            ส่วนนายณัฐชัยเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวและนำตัวส่งสภ.เมืองระนอง เพื่อทำการซักถามและสอบปากคำอย่างละเอียด ก่อนที่จะให้มารดาและผู้ใหญ่บ้านนำตัวไปทำการกักตัว 14 วัน เพื่อดูอาการต่อไป  เวลาแบบนี้ไม่ควรที่จะมาล้อเล่นนะคะ ถ้าคิดว่าตัวเองติดและเป็นก็ต้องไปพบแพทย์ ไม่ใช่ทำแบบนี้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ยังต้องทำงานหนัก

ขอขอบคุณที่มาจาก: หนังสือพิมพ์ใต้สันติสุข