ในปัจจุบันนี้การปลูกพืชผักสวนครัว ยังคงเป็นที่น่าสนใจและได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย เราสามารถปลูกทานเองได้โดยที่ไม่ต้องไปซื้อ อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว และนอกจากจะได้อาหารสะอาดปลอดภัย ลดค่าใช้จ่าย แถมได้ออกกำลังกายไปในตัวอีกด้วย
วันนี้เราจะมาแนะนำวิ ธีการปลูกพืชผักสวนครัว ในแ บ บฉบับบ้านๆ เป็นเคล็ดลับการปลูกและขั้นตอนการทำที่ง่าย เห็นผลผลิตเร็ว โดยจะแนะนำผักที่เราใช้กันบ่อยๆมีอะไรบ้างไปดูกันเลยจ้า
1.ผักบุ้ง ผักสุดโปรดของใครหลายคน
-นำเมล็ดผักบุ้งมาแช่น้ำ
-โดยให้เมล็ดผักบุ้งนั้นจมน้ำและใช้เวลาประมาณซัก 12 ชั่ ว โมง
-จากนั้นก็นำผักบุ้งไปเพราะโรงกระถางได้
-ซึ่งผักบุ้งนั้นจะใช้เวลาง อ กอยู่ที่ประมาณ 14 วันและใช้ระยะเวลาในการปลูกอยู่ที่ประมาณ 25 วันถึงจะเก็บเกี่ยวได้
2.ผักชี
– สภาพในขั้นตอนแรกให้เราเริ่มจากการนำเมล็ดผักชี มาทำการห่อด้วยกระดาษ
– หลังจากนั้นก็ให้เราใช้ขวดแก้วหรือว่าขวดพลาสติกแข็งก็ได้ นำมาบดเม็ดผักชีให้แตกเป็น 2 ชิ้น
– เมื่อเมล็ดแตกทั้งหมดแล้วหลังจากนั้นก็ให้นำไปแช่ในน้ำอุ่น รอให้เมล็ดจมน้ำเท่านี้เราก็สามารถนำมาเพาะปลูกได้ตามปกติแล้ว
โดยปกติทั่วไปเม็ดผักชีนั้นจะใช้เวลางอกประมาณ 7 วัน โดยผักชีไทจะใช้เวลาในการปลูกประมาณ 10 วัน เราก็สามารถเก็บเกี่ยวกินและนำไปขายได้แล้ว สวนผักชีลาวเราจะใช้ระยะเวลาประมาณ 60 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้
3.พริก
– นำเมล็ดมาแช่น้ำอุ่นประมาณ 5-10 องศาจนเมล็ดจมน้ำ
– แล้วเอากล่องพลาสติกที่มีฝาปิดมารองก้นด้วยกระดาษทิชชู่จุ่มน้ำ
– จากนั้นก็นำเมล็ดมาใส่ลงไปในกล่องพลาสติก
– ปิดฝากล่องให้แน่นและทิ้งไว้ 1 คืนเพียงเท่านี้ก็สามารถนำมาเพาะปลูกได้
-ซึ่งพริกนั้นจะใช้เวลาในการงอกอยู่ที่ 10 วันและใช้เวลาในการปลูกอยู่ประมาณ 80 วันถึงจะเก็บเกี่ยวได้
4.ผัดสลัด
– เอากล่องถนอมอาหารรองด้วยกระดาษทิชชูแล้วพรมน้ำให้เปียก
– ใส่เมล็ดผักลงไปแล้วปิดฝากล่องให้แน่น
– นำไปแช่เย็นประมาณ 2 วัน
– เมื่อเช้าเย็นเสร็จแล้วก็ทำการปลูกลงดิน
-ลดน้ำตามปกติ รองอกขึ้นมา รอเก็บผลผลิต
5. ต้นหอม
-ในขั้นตอนแรกนี้ให้เราเตรียมดินสำหรับการเพาะปลูกให้เรียบร้อย
– จากนั้นนำเมล็ดถั่วลิสงมาถูกแล้วผสมกับดินจนเป็นเนื้อเดียวกัน
– นำเมล็ดต้นหอมโรยลงไปบนหน้าดิน
– ให้เราทำการลดน้ำช่วงเช้าและช่วงเย็น
– และเมื่อเวลาผ่านไปมีใบขึ้น ให้เราทำการลดน้ำเหลือครั้งละ 1 วันพอ
ซึ่งต้นหอมนั้นจะใช้เวลาในการง อ กอยู่ที่ 5 วันและใช้เวลาปลูกอยู่ที่ 45 วันจึงจะสามารถเก็บเกี่ยวได้
6.คะน้า
-ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักเป็นปุ๋ยรองพื้นก่อนหว่านเมล็ดทุกครั้ง การปลูกผักจะได้ผลดีมากขึ้น ผักจะแข็งแรงมีความต้านทานโรคและแมลงได้ดี ทำให้ลดการใช้สารเคมีลงไปมาก
-โรยเมล็ดเรียงเป็นแถว เหมาะสำหรับแปลงที่ยกร่องธรรมดา ขนาดของแปลงกว้างประมาณ 1 เมตร เมื่อเตรียมดินเสร็จเรียบร้อยแล้วก็โรยเมล็ด ให้เป็นแถว กะระยะให้เมล็ดห่างกันพอสมควร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 20 เซนติเมตร เสร็จแล้วกลบดินบาง ๆ ปูฟางข้าวหรือหญ้าคาแห้งคลุมบนแปลง รดน้ำให้ชุ่ม แบบนี้ใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 800 กรัม/ไร่
-เมื่อผักสูงได้ประมาณ 10 เซนติเมตร หรือราวอายุ 20 วัน ให้เริ่มทำการถอนแยก
-ผักคะน้าต้องการน้ำอย่างเพียงพอและสมํ่าเสมอ
-ใช้เวลาประมาณ 45 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้
7.ขึ้นฉ่าย
– เพาะให้เมล็ดงอกก่อน เมื่อกล้าสูงประมาณ 2-3 นิ้ว จึงทำการย้ายปลูก
-ต้องเตรียมดินแปลงเพาะให้ละเอียดที่สุด เนื่องจากเมล็ดพันธุ์มีขนาดเล็กมาก โดยเฉลี่ยน้ำหนักเมล็ดพันธุ์ 1 กรัม จะมีจำนวนเมล็ดประมาณ 2,000-2,200 เมล็ดเลยทีเดียว
-หลังจากเตรียมดินแปลงเพาะให้ละเอียดดีแล้ว ให้ใช้เมล็ดพันธุ์ 1 ช้อนชาผสมกับทราย 1 ถัง แล้วคลุกให้เข้ากัน หว่านลงในแปลงเพาะขนาดเนื้อที่ 1 ตารางเมตร หลังจากหว่านแล้วให้ใช้ฟางแห้งคลุมบางๆ แล้วรดน้ำด้วยฝักบัวฝอยวันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน และเย็น
-ผ่านไปประมาณ 7-10 วัน เมล็ดขึ้นฉ่ายจะงอกเป็นฝอยๆ ในตอนนี้ควรใส่ปุ๋ย เมื่อกล้ามีอายุได้ 6-7 สัปดาห์ จะมีลำต้นสูง 3-4 นิ้ว ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมกับการทำการย้ายกล้าเพื่อลงแปลงปลูก
-ควรทำร่มเงาบังแสงแดดอยู่ประมาณ 3-4 วัน โดยค่อยๆ เปิดให้โดนแสงมากขึ้นทีละน้อยๆ จนกระทั่งต่อมาเปิดให้โดนแสงได้ตลอดวัน
-นับตั้งแต่วันลงเมล็ด ทั้งหมด50วัน ก็สามารถนำมารับประทานได้
แต่ละชนิดนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยนะคะ เป็นการปลูกแบบง่ายๆสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย หรือบางคนมีพื้นที่เยอะก็อาจจะสามารถสร้างรายได้ได้เลย หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่หลายท่าน ลองนำไปปลูกดูนะคะ
เรียบเรียงโดย: tkvariety