วิธีต้มข้าวโพด ไม่ให้เหี่ยวดูเต่งตึงเก็บได้นาน

           เทคนิคในการต้มข้าวโพดหลายๆคนก็อาจจะมองว่า เป็นเรื่องง่ายไม่ยุ่งยาก ซึ่งก็จริงนะคะ แต่ทั้งนี้ ก็มีหลายคนที่ต้มแล้ว ไม่เป็นอย่างที่คิด เช่นเดียวกันกับสมาชิกเฟชบุ๊กท่านนี้ ได้สอบถามว่า ข้าวโพดต้มตอนเช้าใหม่ๆทำไมถึงบูดง่ายคะต้มนานก็เหี่ยวจะแก้ยังไงคะ

         การต้มข้าวโพด “วิธีการต้มนั้นเราจะต้องต้มในน้ำเดือด คือเอาน้ำใส่หม้อต้มจนเดือดไม่ต้องใส่เกลือและอะไรทั้งนั้น จากนั้นให้ใส่ข้าวโพดลงไปวางเรียงตามความยาวของฟักให้เต็มหม้อและน้ำในหม้อต้องท่วม ต้มไปนานประมาณ 10 นาทีก็สุกดี แต่ถ้าเป็นข้าวโพดข้าวเหนียวต้องใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพราะสุกยากกว่า”

         ห้ามเติมเกลือ เนื่องจากว่าเกลือนั้นเป็นสาร อิเล็กโตรไลต์ (electrolytes) ที่แรง ส่งผลทำให้เกิดการดึงน้ำออกจากเมล็ดข้าวโพดได้ ถ้าใส่ลงไปในน้ำต้มรวมกัน จะทำให้เมล็ดข้าวโพดที่ต้มออกมามีความเหี่ยว ไม่น่าทานแน่นอน   

          แต่ควรใส่น้ำตาลทรายลงไปประมาณ 1 ช้อนต่อน้ำ 1 ลิตรเนื่องจากว่าน้ำตาลทรายนอกจากจะให้รสชาติที่หวานอร่อยแก่ข้าวโพดแล้ว น้ำตาลส่วนที่ซึมเข้าข้าวโพดนั้นสามารถที่จะสร้างพันธะไฮโดรเจนกับน้ำ เป็นผลทำให้น้ำต้มนั้นเกิดการออสโมซิส (osmosis) ซึมผ่านผนังเซลล์ในเมล็ดข้าวโพด ทำให้เมล็ดข้าวโพดที่ต้มนั้นเต่งตึงน่าทาน

         ถ้าใครชอบรสชาติเค็มปะแล่มๆนั้น ก็ควรจะนำข้าวโพดที่ต้มสุกแล้ว มาจุ่มน้ำเกลือก่อนรับประทานทันที ไม่ควรจุ่มน้ำเกลือ แล้วเอาขึ้นทิ้งไว้ก่อนบริโภคนานๆ เนื่องจากว่าเกลือนั้นจะดึงน้ำออกจากเมล็ดข้าวโพดต้มออกมา ทำให้เมล็ดข้าวโพดนั้นมีความเหี่ยว และรสชาติของน้ำเกลือจะถูกจางลงด้วย

ความคิดเห็นและคำแนะนำจากชาวเน็ต 

ต้มทั้งเปลือก ไม่ใส่เกลือ[ads]

ต้มแล้วเอาขึ้นมาแช่น้ำนิดหน่อย 

         หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่หลายท่านนะคะ สำหรับวิธีการต้มข้าวโพด ข้าวโพดต้มนั้นมีรสชาติหวานและมีคุณค่าทางโภชนาการค่อนข้างสูง อีกทั้งเป็นอาหารเส้นใยที่ทำให้อิ่มท้องได้ ทำให้เป็นอาหารไดเอ็ทสำหรับใครหลายๆคนเลยทีเดียว ไม่แปลกนะคะ ที่หลายคนจะชอบซื้อมาติดบ้าน 

ขอขอบคุณที่มาจาก: แก้ว ณััฏฐกานต์