พบวัยรุ่น ซัก-รีด หน้ากากอนามัยมือสองออกจำหน่าย

        จากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้หน้ากากอนามัยเป็นที่ต้องการของประชาชนจำนวนมาก และตอนนี้กลายเป็นสินค้าหายาก และมีราคาแพง เนื่องจากมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ฉวยโอกาสนี้ขึ้นราคาสินค้า และจำหน่ายหน้ากากอนามัยที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่พบแหล่งผลิตหน้ากากอนามัย รีไซเคิล ที่กลุ่มวัยรุ่นช่วยกัน “ซัก/รีด/พับ” ใส่กล่องเตรียมส่งจำหน่าย 

       วันที่ 2 มีนาคม 2563 เวลา 13.00 น. นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอวิหารแดง จ.สระบุรีพ.ต.อ.ไพโรจน์ ตีรโสภณ ผ.ก.ก.สภ.วิหารแดง พ.ต.ท.ชูเกียรติ สุขประเสริฐ สว.สส. นายประชาธนบัตรวิโรจน์ นักวิชาการ สาธารณสุข อ.วิหารแดง พ.ต.ท.สำราญ โสรีกุน สว.(สอบสวน)พนักงานสอบสวน สภ.วิหารแดง พร้อมกำลังฝ่ายความมั่นคง และนายพรชัย แย้มพลอย กำนันต.หนองสรวง เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 6 ต.หนองสรวง อ.วิหารแดงซึ่งเปิดเป็นสถานที่ร้านรับซื้อของเก่าพบกลุ่มชายวัยรุ่นรวมจำนวน 6 คน กำลังแบ่งหน้าที่กันทำงานส่วนหนึ่งคัดแยกชิ้นส่วน(หน้ากากอนามัย) ซึ่งเป็นของใช้แล้ว บางคนทำหน้าที่ใช้เตารีดรีดหน้ากากอนามัยที่เป็นของเก่าโดยใช้ไม้ไผ่ตั้งยึดกับแท่นไม้ทะแยงเป็น 4มุมเพื่อดึงสายคาดหน้ากากอนามัยให้ตึงเพื่อใช้เตารีดรีดหน้ากากอนามัยให้เรียบก่อนพับให้เหมือนของใหม่นำบรรจุใส่กล่อง เพื่อนำส่งออกจำหน่ายเมื่อกลุ่มชายวัยรุ่นพบเห็นรถของเจ้าหน้าที่ขับตามกันเข้ามาหลายคันต่างผละจากการทำงานรอดูเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ ตรวจสอบในบริเวณเพิงพักติดกับตัวบ้านพบเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ 1 เครื่องเตารีด 2 อัน ถุง”บิ๊กแบ็ก” หลายใบและกล่องกระดาษขนาดใหญ่อีกหลายใบภายในบรรจุชิ้นส่วนหน้ากากอนามัยที่ผ่านการคัดแยกแล้วและยังไม่ได้คัดแยกอีกเป็นจำนวนมากวางทับซ้อนกันอยู่ คาดว่าจะมีหลายหมื่นชิ้นส่วนที่พงหญ้าห่างจากตัวบ้านเล็กน้อยยังพบหน้ากากอนามัยที่ชำรุดที่ผ่านการคัดแยกแล้วถูกนำใส่ถุงขนาดใหญ่ถูกนำมากองทิ้งไว้เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน

         สอบสวนทราบว่าบ้านดังกล่าวเป็นของนางจินตนา นามวิชัย อายุ 47 ปี ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบไม่พบอยู่ในบ้าน โดยมีนายคุณานนท์ อายุ 17 ปีลูกชายทำหน้าที่ดูแล คุมคนงานอยู่ ให้การว่า หน้ากากอนามัย ที่พบนำมาจากโรงงานอุตสาหกรรมแต่ไม่ทราบว่าที่ใด ตนไม่ทราบรายละเอียดมากนัก เพราะส่วนใหญ่แม่นางจินตนา จะเป็นผู้ดูแลสำหรับหน้ากากอนามัยที่ผ่านการรีดและพับเรียบร้อยกำลังนำบรรจุกล่องเพื่อจัดส่งไปจำหน่ายโดยว่าจ้างกลุ่มวัยรุ่นมาทำงานคัดแยก (รีไซเคิล) หน้ากากอนามัยดังกล่าวให้ค่าจ้างอันละ 1 บาทแต่ละคนทำได้วันหนึ่ง 3-400 อัน

       ในขณะเดียวกันนายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอวิหารแดง ได้ต่อสายโทรศัพท์พูดคุยสอบถามนางจินตนา เจ้าของบ้านดังกล่าวขณะไปทำธุระนอกบ้าน ถึงแหล่งที่มาของหน้ากากอนามัย และนำหน้ากากอนามัยจำนวนมากเหล่านี้มา ทำอะไร นางจินตนา ตอบคำถาม นายสมศักดิ์ฯ ว่านำมาจากโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง แต่ไม่บอกว่าที่ใด โดยแจ้งแก่นายอำเภอว่าได้นำหน้ากากอนามัยเหล่านั้นมาคัดแยก นำเหล็กที่ประกอบอยู่ในหน้ากากอนามัยเพื่อนำไปหลอมละลายนำแร่เหล็กไปขายแต่ เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ

       ซึ่งนายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอวิหารแดง เปิดเผยว่า จากหลักฐานหน้าการอนามัยเป็นจำนวนมากที่พบ กับพฤติกรรมในการกระทำ “รีไซเคิล”หน้ากากอนามัยเหล่านี้ รวมถึงคำให้การของลูกชายเจ้าของบ้านขัดกันจึงมอบหมายให้พนักงานสอบสวนทำบันทึกตรวจยึดหน้ากากอนามัยเหล่านั้นไว้ทั้งหมดและนำบางส่วนส่งไปพิสูจน์ประสานกับพาณิชย์ฯถึงที่มาของหน้ากากอนามัยรวมถึงให้ตรวจสอบใบอนุญาติการทำการค้า รับซื้อของเก่าว่า ถูกต้องหรือไม่ และมอบให้ สำนักงานสาธารณสุข อ.วิหารแดงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.วิหารแดง ในฐานะผู้เสียหายหากมีการนำหน้ากากอนามัยที่มีการรีไซเคิลแล้วนำกลับไปจำหน่ายให้กับประชาชนที่กำลังขาดตลาดนับเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง

        ด้าน พ.ต.อ.ไพโรจน์ ตีรโสภณ ผ.ก.ก.สภ.วิหารแดง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแส การนำหน้ากากอนามัยมารีไซเคิล ทางโชเชี่ยลจึงจัดชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว พบมีการกระทำดังกล่าวจริงจึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตรวจสอบดังกล่าว ส่วนจะมีความผิดข้อหาใดบ้างนั้นขอตรวจสอบหลักฐานต่างๆให้ชัดเจนก่อน

       เห็นแล้วก็ต้องบอกเลยว่าตอนนี้นอกจากจะต้องหาซื้อหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานแล้ว ยังต้องดูด้วยว่าเป็นของเก่ามือสองหรือไม่ ยังไงก็อยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับหลายๆท่านให้ระวังกันด้วยนะคะ 

ขอขอบคุณที่มาจาก : แนวหน้า