ปี 62 คนไทยมีหนี้สูงติด 1ใน 10ของโลก เหตุใช้จ่ายเกินตัว

       เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 ทางรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ได้ออกมาเปิดเผยว่า นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ออกมาเปิดเผยผลสำรวจสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทย หนี้ครัวเรือนเฉลี่ยอยู่ที่ 340,053 บาทต่อครัวเรือน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และติด 1 ใน 10 ประเทศมีหนี้ครัวเรือนสูงสุดของโลก 

       เทียบจากการสำรวจครั้งแรกเมื่อปี 52 ที่มีหนี้สินเพียง 143,476 บาท และเพิ่มจากปีก่อน 7.4% ในจำนวนนี้เป็นหนี้ในระบบ 59.2% และหนี้นอกระบบ 40.8% มีภาระผ่อนชำระหนี้ในระบบเดือนละ 16,960 บาท และนอกระบบเดือนละ 5,222 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ 75.4% ระบุมีปัญหาขาดการชำระหรือผิดนัดชำระ

      โดยสาเหตุของการเป็นหนี้มาจากรายได้ลดลง และขาดรายได้จากการถูกเลิกจ้างงาน เพราะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ค่าครองชีพสูงขึ้น ซื้อสินทรัพย์ถาวรมากขึ้น ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมากขึ้น ผ่อนสินค้ามากเกินไป ค่าเล่าเรียนบุตรหลาน ไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้จากภัยธรรมชาติ หนี้จากการพนัน รวมถึงเป็นค่ารักษาพยาบาล ใช้ใน การเกษตร เสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ

       นอกจากนี้ ประชากรกลุ่มเจนแซด (Gen Z) อายุ 8-20 ปี มีการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและเกินตัวมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่ซื้อสินค้าบ่อยครั้งหรือซื้อจุกจิก

       นอกจากนี้ยังมีเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ การเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย และการซื้อสินค้าที่สะดวก โดยเฉพาะทางออนไลน์, ขาดวินัยทางการเงิน, สถาบันการเงินให้วงเงินมากเกินไป, ความรู้ทางการเงินไม่เพียงพอและนำเงินไปลงทุนหรือเก็บสินทรัพย์ โดยเฉพาะซื้อบ้าน ซื้อรถ ซึ่งการลงทุน การซื้อบ้าน ซื้อรถยังไม่น่าห่วง เพราะเป็นการใช้จ่ายตามปกติ แต่ที่น่าจับตาคือการใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้า รวมถึงการกู้เงินนอกระบบ เพราะเงินกู้ในระบบจนเต็มเพดานแล้ว

      ซึ่งเรื่องนี้ก็สะท้อนให้เราเห็นว่าคนไทยนั้นมีรายได้น้อย แต่ใช้จ่ายเกินความจำเป็น ยังไงก็อยากจะขอฝากเตือนไปถึงทุกท่านว่าในช่วงยุคเศรษฐกิจแบบนี้ควรจะเก็บออมเงิน และประหยัดมากที่สุด เพราะอาจจะส่งผลกระทบในวันข้างหน้าได้

ขอขอบคุณที่มาจาก : เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร