ที่อยู่ของชาวบ้านทั่วไปในแต่ละประเทศ จะต่างกันมากแค่ไหน  

        เชื่อว่าหลายคนที่เคยได้ชมภาพยนตร์ หรือมีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างประเทศคงจะได้เห็นบ้านเมืองในต่างแดนว่ามีความแตกต่างกันในแต่ละประเทศ ซึ่งวันนี้เราเลยขอนำภาพความแตกต่างของบ้าน หรือที่พักอาศัยของชาวบ้านธรรมดาๆ หรือคนทั่วๆ ไป แต่ละพื้นที่มาให้ได้ชมว่าจะมีความแตกต่างกันมากขนาดไหน

1. ญี่ปุ่น

      ในกรุงโตเกียว ถือว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดและมีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่คนรวยเท่านั้น ที่จะมีที่อยู่อาศัยอย่างกว้างขวาง ในขณะที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์เล็กๆ

      เพียงห้องเดียวในอพาร์ทเมนท์ จะสามารถใช้เป็นทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องรับประทานอาหาร ที่มุมห้องคุณจะเห็นตู้เย็นตั้งอยู่ และหากปีนข้ามเตียงนอนไปก็จะเป็นระเบียง อย่างไรก็ตาม ห้องของคนญี่ปุ่นจะดูสดใส และใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า

     ห้องด้านหลังประตูสีเหลือง จะมีตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ และครัวเล็กๆ ที่มีทุกสิ่งที่คุณต้องการ

2. สเปน

      ชาวสเปนส่วนใหญ่ชอบอาศัยอยู่ในตึกอพาร์ทเมนท์ ซึ่งในเขตที่อยู่อาศัยของชาวสเปนส่วนใหญ่ก็มีลักษณะเป็นตึกๆ แบบนี้

      อพาร์ทเมนท์ของชาวสเปนส่วนมากจะมีกำแพงสีขาว พื้นหิน และหน้าต่างเป็นบานๆ แบบผลักเข้าผลักออก องค์ประกอบภายในห้องจะต้องช่วยให้พวกเขาอยู่รอดได้ในฤดูร้อน

      และจะมีเครื่องทำความร้อนไฟฟ้าเอาไว้สำหรับในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศเย็นมาก และสิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือ บิลค่าไฟของสเปน อยู่ในกลุ่มที่แพงที่สุดในยุโรปอีกด้วย

      มื้ออาหารของชาวสเปน มักจะรับประทานกันที่ห้องนั่งเล่น ถึงแม้ในห้องครัวของอพาร์ทเมนท์จะค่อนข้างกว้าง แต่พวกเขามักจะใช้เป็นพื้นที่ทำอาหารเท่านั้น

3. สวีเดน

      ที่พักอาศัยของชาวสวีเดนส่วนใหญ่จะเป็นอาคารและอพาร์ทเมนท์ตึกสูงเหมือนกับภาพด้านบนนี้

     หนึ่งในสิ่งที่โดดเด่นของชาวสวีเดนก็คือการใช้พื้นที่ในชั้นใต้ดินอย่างชาญฉลาด พวกเขามักใช้เป็นพื้นที่เก็บจักรยาน และเป็นห้องซักรีด หรือบางครั้งพวกเขาก็เปลี่ยนมันเป็นห้องออกกำลังกาย

     ในแต่ละอพาร์ทเมนท์ จะมีห้องเก็บของที่อยู่ในห้องพิเศษในชั้นใต้ดิน ผู้อยู่อาศัยจะใช้ห้องเหล่านี้เก็บของอย่างเช่น ยางรถยนต์ สกี กระเป๋าเดินทาง และของใช้ตามฤดูกาลอื่นๆ หรือสิ่งที่สำคัญน้อยกว่า ส่วนระเบียงก็จะถูกใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ

      กำแพงและเฟอร์นิเจอร์สีขาว ถือเป็นสัญลักษณ์ของการออกแบบตามสไตล์สแกนดิเนเวียนที่มีชื่อเสียงระดับโลก การตกแต่งภายในจะดูสดใส รวมไปถึงหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ไม่มีผ้าม่าน

4. อังกฤษ

       ชาวอังกฤษส่วนใหญ่พยายามที่จะหลีกเลี่ยงการอยู่อาศัยบนตึกหรือแฟลต พวกเขาชอบอาศัยอยู่ในเขตชานเมืองที่มีบ้านเป็นหลังๆ แบบนี้

      และเนื่องจากตึกทุกแห่งไม่ได้มีเครื่องทำความร้อนกลาง ชาวอังกฤษจึงต้องพยายามทำถึงทางเพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนถูกระบายไปข้างนอก เช่น การปูพรมในทุกๆ ห้อง มีที่อุดช่องใต้ประตูทุกบาน และแน่นอนว่าต้องมีเตาผิงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด นอกจากนั้น ก๊อกน้ำที่อ่างล้างมือจะมีระบบแยก น้ำร้อน น้ำเย็น คนละก๊อกอีกด้วย

     ส่วนการตกแต่ง พวกเขายังคงยึดการต่อสู้กับอากาศที่หนาวเย็นเป็นหลัก แต่ก็ดูอบอุ่นและมีสไตล์อยู่ดี

5. เกาหลีใต้

      กว่า 80% ของชาวเกาหลีใต้จะอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์บนอาคารสูง และนี่เป็นลักษณะเด่นของที่พักอาศัยของชาวเกาหลีที่อาศัยอยู่ในเมือง เพราะที่นี่มีแต่อาคารสูงเป็นจำนวนมาก ที่มองเห็นได้จากระยะไกล

     อาจฟังดูแปลก แต่อพาร์ทเมนท์ในเกาหลีไม่มีทางเดินในบ้าน ส่วนทางเข้าอพาร์ทเมนท์จะมีขนาดเล็กมากเพียงแค่เมตรกว่าๆ ดังนั้นเมื่อคุณเข้ามาแล้วจะเห็นประตูที่เข้าไปสู่ห้องครัวหรือห้องนั่งเล่นทันที ทางเข้าส่วนใหญ่มักจะมีพื้นกระเบื้อง ซึ่งเป็นที่ๆ เอาไว้ถอดรองเท้าก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้าน

      ถึงแม้อพาร์ทเมนท์ส่วนใหญ่ในเกาหลีจะค่อนข้างเล็ก แต่ภายในห้องจะดูสว่างมาก เป็นผลมาจากหน้าต่างบานใหญ่ ส่วนในห้องน้ำมักจะไม่มีอ่างอาบน้ำ และฝักบัวบางครั้งก็จะใช้เป็นท่อน้ำง่ายๆ ที่ต่อท่อสายยางแทน

6. ออสเตรเลีย

      ชาวออสซี่ชื่นชอบที่จะอยู่อาศัยในบ้านเดี่ยวของตัวเอง แต่ด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้คนราว 30% เลือกที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์

     ชาวออสเตรเลียส่วนมาก อาศัยอยู่ในบ้านขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ราว 80-120 ตารางเมตร โดยประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว 1 ห้องอาบน้ำ 2 ห้องน้ำ และโรงรถ บ้านบางหลังจะมีห้องซักผ้าขนาดเล็ก และห้องนั่งเล่นเพิ่มอีก 1 ห้อง และประตูส่วนมากมักจะทำจากกระจก

7. อินเดีย

      ถ้าชาวอินเดียครอบครัวไหนร่ำรวย พวกเขาจะอยู่ในบ้านหลังใหญ่โต และมีห้องมากมาย โดยบ้านดังกล่าวจะมี 2 ชั้น และมีสวนหลังบ้านขนาดใหญ่ แต่ถ้าเป็นคนจนก็อยู่ในห้องเช่าที่แออัดราวกับสลัม ซึ่งถือเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ

     การตกแต่งภายในของชาวอินเดียมักจะเป็นการผสมผสานกันระหว่างสไตล์ตะวันตกและตะวันออก โดยชั้นล่างจะเป็นห้องเก็บของต่างๆ ในขณะที่ชั้นบนจะเป็นห้องสำหรับทำพิธี และต้อนรับแขก ห้องที่ดีที่สุดในบ้านจะเป็นของผู้ที่สวดภาวนา 2 ครั้งต่อวัน หน้าต่างห้องของนอนของผู้หญิงจะเป็นวิวที่มองออกไปทางสวนหลังบ้าน เพราะมันดูไม่เหมาะสม ถ้าผู้หญิงจะมองออกไปนอกหน้าต่างไปยังผู้คนภายนอก

8. คิวบา

       บ้านส่วนใหญ่ในคิวบา มักจะสร้างจากคอนกรีตที่มี 1-2 ชั้น โดยที่ไม่มีกระจกที่หน้าต่าง แต่ผู้คนจะใช้ไม้หรือเหล็กเป็นบานพับแทน

     ถ้าคุณได้มีโอกาสเข้าไปในบ้านในเมืองฮาวานา โดยเฉพาะในย่านใจกลางเมืองหลวง คุณจะประหลาดใจกับวิธีการตกต่างภายในที่สวยงามในสไตล์โคโลเนียล ด้วยเพดานสูง และเฟอร์นิเจอร์แบบโบราณ ทำให้บ้านของชาวคิวบาดูคลาสสิคอย่างแท้จริง

     ส่วนห้องรับรองและห้องครัว เรามักจะเห็นไม้เป็นส่วนประกอบสำคัญอยู่เสมอ โดยสไตล์การจัดวางในห้องครัวดูไม่แตกต่างจากคนไทยเท่าไหร่

9. สหรัฐอเมริกา

      ถ้าวัดกันตามค่าเฉลี่ยพื้นที่อยู่อาศัยของผู้คน อเมริกาถือว่าสูงที่สุดในโลก จึงไม่แปลกใจที่ผู้คนในอเมริกามักจะมีบ้านหลังใหญ่กว่าคนในประเทศอื่นๆ บ้านที่ประกาศขายจะมีเกือบทุกสิ่ง เช่น พรมทุกห้อง ห้องอาบน้ำที่ครบทั้งอ่าง ชักโครก ฝักบัว ห้องครัวที่มีของใช้เพียบ ส่วนสิ่งที่ขาดไปก็คือเฟอร์นิเจอร์หลักๆ เท่านั้น

     กฏหลักของที่นี่คือจำนวนห้องนอนและห้องอาบน้ำจะต้องมีเท่าๆ กัน สำหรับบ้านบางหลัง จะมีตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ครบทุกห้องนอนอีกด้วย

       การออกแบบที่โดดเด่นของบ้านคนอเมริกัน คือภายในบ้านจะต้องดูสะดวกสบายและดูแพง โดยเฉพาะข้างหน้าบ้านซึ่งเป็นจุดที่สวยที่สุด ที่แขกเหรื่อสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน และจะซ่อนห้องนอนเอาไว้ไม่ให้มองเห็นได้

     สำหรับเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องราวที่เปิดอีกหนึ่งประสบการณ์ทำให้เราได้ทราบว่า ในแต่ละประเทศคนธรรมดา หรือชนชั้นกลางนั้นมีควมเป็นอยู่กันอย่างไรบ้าง และแตกต่างจากความเป็นอยู่จากบ้านเราเหมือนกัน 

ขอขอบคุณที่มาจาก : petmaya.com