ในช่วงฤดูฝนก็จะไม่ค่อยเจอแดดกัน ทำให้เกิดความอับชื่น และมีราขึ้นข้าวของในบ้านของเรา เช่นกับ สมาชิกผู้ใช้เฟชบุ๊กท่านนี้ ที่ได้ โพสต์ภาพของที่บ้านที่มีราขึ้น และได้ขอคำแนะนำว่าควรทำเช่นไรกับ ปัญหานี้ดี ต่อมามีหลายท่านเขามาแสดงความคิดเห็นและคำแนะน ส่วนทางเราก็มีวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นมาฝาก
เข้าหน้าฝนแล้วหลายๆ คนอาจจะชอบที่บ้านของเรานั้นมีความเย็นสบายจากอากาศที่เย็นสบาย และสายฝนที่โปรยปราย แต่หารู้ไม่ว่า ในความเย็นสบายนั้น มาพร้อมกับความชื้น หากเราปล่อยให้บ้านของเรามีความชื้นมากไป ก็จะทำให้บ้านมีกลิ่นเหม็นอับ เกิดเชื้อราขึ้นตามฝ้าเพดาน และผนัง และอาจเกิดให้มีปัญหาด้านสุขภาพตามมาด้วย จากที่กำลังเย็นสบายๆ ก็อาจทำให้คุณเกิดอาการร้อนใจจากปัญหาเหล่านี้ก็เป็นได้ วันนี้ ยิปรอค ตราบ้าน “บ้านแอนด์เฟรนด์” จากยิปรอคตราบ้านมีวิธีที่จะช่วยลดปัญหาบ้านชื้นง่ายๆ มาฝากกัน
1.ดูว่าภายในบ้านระบายอากาศดีหรือป่าว ถ้าห้องไหนมีประตูหน้าต่างควรเปิดไว้บ้าง เพื่อให้มีลมพัดเข้ามาไล่กลิ่นอับ
2.ติดตั้งเครื่องดูดความชื้นสำหรับคนที่มีงบประมาณเยอะ การใช้เงินแก้ปัญหาก็อาจจะเป็นวิธีที่โอเคก็ได้ คือหาเครื่องดูดความชื้นมาใช้ซะเลย (มีหลายขนาดนะคะ เลือกได้)
3.วางต้นไม้ให้ถูกที่ ต้นไม้ช่วยทำให้บ้านเย็น และสามารถช่วยลดเรื่องฝุ่น หรือมลพิษภายในบ้านได้ แต่ว่าต้นไม้ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้บ้านชื้นเพราะใบของมันจะคายน้ำออกมา ฉะนั้นเราควรเอาต้นไม้ไปไว้ตรงจุดที่อากาศถ่ายเทสะดวก อย่างเช่นพื้นที่ใกล้ๆ หน้าต่างหรือประตูทางเข้าบ้าน ก็ช่วยลดปัญหาเรื่องความชื้นภายในบ้านได้
4.ใช้วัสดุดูดความชื้นที่มีอยู่ภายในบ้าน โดยเฉพาะมุม หรือบางส่วนของบ้านที่มีความอับชื้นมากเป็นพิเศษ เช่น บริเวณอ่างล้างจาน มุมตู้เก็บของหรือในห้องน้ำ สามารถหยิบของที่มีอยู่ในครัวมาช่วยได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ่านไม้ เกลือ นำไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ในบ้านที่ต้องการลดความชื้น
5.เปิดรับแสงแดดบ้าง ถ้าแสงแดด อกเมื่อไหร่ ให้รีบเปิดรับทันที
ความชื่นในช่วงหน้าฝน
ทำให้มีราขึ้น
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต[ads]
ใช้เครื่องดูดความชื่น
ถ้ามีของสำคัญ ถอยตู้ปรับความชื่นมาใส่ของ
รีบหาวิธีแก้ตามที่ชาวเน็ตแนะนำ หรือตามวิธีข้างต้นนั้นนะคะ เพราะเชื้อราเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายส่งผลกระทบต่อสุขภาพต่าง ๆ ตามมา เช่น หากเข้าตาและจมูกจะทำให้เกิดการระคายเคือง มีอาการจาม น้ำมูกไหล มีไข้ อาจก่อให้เกิดโรคหอบหืด ภูมิแพ้ และปอดอักเสบได้
ขอขอบคุณที่มาจาก: ปลั๊กไทย by มหาชะนี
