ทราย เจริญปุระ เล่าสิ่งที่กลัวมาตลอด ชาวเน็ตแห่ส่งกำลังใจ

             เป็นดารานักแสดงที่หลายคนชื่นชอบ และชื่นชมในฝีมือการแสดงเป็นอย่างมาก กับทราย เจริญปุระ และหลังจากการสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิต ทราย เจริญปุระ หรือ ทราย อินทิรา เจริญปุระ ได้โพสต์เล่าความทรงจำเกี่ยวกับคุณแม่ โดยเนื้อหาซึ่งๆ และนี้คือสิ่งที่เขากลัวมาตลอด โดยระบุว่า 

           วันนี้โมโม่แอบวิ่งเข้าไปในห้องคุณแม่ช่วงที่กำลังชุลมุนกัน กว่าจะรู้ว่าแมวหายก็ตอนเกือบจะไปหาแม่อีกรอบที่วัดนั่นล่ะ ทรายเดินหาโมโม่ เห็นนอนสบายอยู่บนที่นอนแม่ เลยไปอุ้มออกมาบอกว่าโมโม่ต้องเป็นเด็กดีนะลูก วันนี้แม่ไม่อยู่ แม่ไปหาคุณยายที่วัด

           จริงๆทรายกลัวมาตลอดนะ ว่าจะเป็นคนไปก่อนแม่ กลัวไม่ได้ทำศพให้อย่างที่แม่ได้สั่งเอาไว้ กลัวคนอื่นจะไม่รู้ใจแม่เท่าทราย แต่จริงๆมันก็ไม่ได้มีอะไรมาก แค่อธิบายให้ใครเข้าใจได้ยากเท่านั้นเอง "อย่าให้คนเห็นชั้นไม่สวย" แม่ย้ำเรื่องนี้เสมอ บ้านเราพูดถึงเรื่องนี้กันเป็นปกติ แม่เลือกรูปหน้าศพด้วยตัวเอง เอาไปอัดใส่กรอบอย่างดี แล้วบอกลูกทุกคนว่าต้องใช้รูปนี้นะ "ไม่งั้นชั้นจะมาหลอก"

           เรื่องระหว่างเราสองคนมันเยอะมาก เยอะจนถ้าทรายนั่งคิดย้อนวันละเรื่อง ก็คงมีอะไรให้คิดเหลือเฟือไปจนกว่าทรายจะตาย เพราะทรายเป็นลูกคนแรกของแม่ เป็นลูกสาวแบบที่แม่ตั้งใจไว้ อะไรๆระหว่างเรามันไม่ได้ง่าย ภาพแรกๆของแม่ที่ทรายจำได้คือแม่ร้องไห้บ้าง รอหมอบ้าง หรือโดนจับอาบน้ำมนตร์กลางแจ้งหน้าบ้านเราตามใจยาย ก่อนจะไปกินยา ทรายยังจำความรู้สึกกลั้นหายใจตอนรอตำรวจเดินมาหา เพราะแม่เล่นจอดรถตรงแยกบางพลัดแล้วไม่ขับต่อทั้งที่ไฟเขียวขึ้นนานแล้ว

           "พี่ทรายหมุนกระจกบอกตำรวจ บอกแม่ไม่สบาย เดี๋ยวเค้าจะมาเอารถไป อย่าเปิดประตูลงไปนะ" แม่สั่งทั้งที่หลับตา แต่พอตำรวจเดินมาเคาะกระจกจริงๆ แม่ก็ขับรถต่อได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

           "คุณแม่ไหวมั้ย" ฉันถาม "ไหวมั้ย?" นี่ดูจะเป็นคำถามที่อยู่คู่ความสัมพันธ์ของเรา มีทั้งคุณแม่ถามทราย ทรายถามคุณแม่ และเราถามกันเอง แต่ละครั้งที่ถามก็อยู่ในอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่เราก็จะไหวกันทั้งคู่แหละ แม้ว่าในใจจะเป็นอย่างอื่นก็ตาม   2-3เดือนนี้เป็นเดือนที่ยากมากๆสำหรับทราย มันไม่ชินที่ไม่มีกองนะคุณแม่ แต่ก่อนทรายก็งงว่าคุณแม่จะเครียดอะไรนักหนา หน้าฝนไม่ต้องออกกองนี่ดีจะตาย ทรายได้นอนอ่านหนังสือ หรือไปงานแบบที่ถ้าแม่รู้ แม่ก็จะบอกว่าไม่เห็นจะได้ประโยชน์หลายงาน

           แต่พอต้องมาถือคิวตัวเอง ทำเรื่องรายรับรายจ่ายตัวเอง ทรายก็อยากจะหัวเราะ ว่าเอาเข้าจริงทรายเครียดกว่าคุณแม่เสียอีกเวลาไม่มีงาน ต้องลุกขึ้นมารื้อข้าวของ ทำอะไรๆให้พอบอกกับตัวเองได้ว่าฉันมีงานทำ ว่างๆอยู่หลายวันจนมีคนโทรมานัดถ่ายรายการวันจันทร์นี่ล่ะ โอ้โห พี่ทรายแทบจะลุกขึ้นมารำ ในหัวนี่ไม่เห็นค่าตัวเป็นเงินเลย เห็นเป็นผ้าอ้อมแม่กับเงินเดือนพี่เพ็ญ กับเสียงเครื่องอบผ้าที่จะได้ทำงานอย่างราบรื่น"

คุณเป้ย  คุณอั้ม เข้ามาให้กำลังใจ

พร้อมชาวเน็ตหลายท่าน ส่งกำใจไปถึง พี่ทราย

กอดพี่ทราย

สู้ๆนะคะ

            แฟนคลับหลายท่านเป็นกำลังใจ และเราก็ขอแสดงความเสียใจและเป็นกำลังให้กับคุณทรายนะคะ มีพบก็ต้องมีจากเป็นธรรมดา เรื่องราวที่คุณทรายเล่ามานั้นอ่านแล้วเศร้าตามจริงๆค่ะ นี่คือสิ่งที่พี่ทรายกลัวมาตลอด และเราก็เชื่อว่าหลายคนก็กลัวเช่นกันกลัววันที่คนรักจะจากไป หรือเราเองที่จะจากคนรักไป ฉะนั้นแล้วทำทุกวันให้เป็นวันที่ดีที่สุดนะคะ 

ขอขอบคุณที่มาจาก: itr