เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ประชาชนที่พักอาศัยใกล้เคียงวัดใหม่ปากคลองมอญ หมู่ 7 ต.ศีรษะจระเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ร้องเรียนว่า เกิดเหตุถนนคอนกรีตของหมู่บ้าน ทรุดพังเสียหาย จึงเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ
พบว่า ถนนคอนกรีตสายหลักที่ชาวบ้านใช้สัญจรเข้าออกหมู่บ้าน เกิดทรุดพังเสียหาย ลงมาต่ำกว่าพื้นเดิมราว 2 เมตร เป็นระยะทางกว่า 150 เมตร จนท่อประปาสายเมนที่ส่งน้ำเข้าหมู่บ้านหลายครัวเรือนแตกจนมีน้ำท่วมขัง ชาวบ้านต้องนำเครื่องสูบน้ำมาเร่งสูบน้ำออก เพื่อป้องกันไม่ให้ เกิดการทรุดตัวมากไปกว่าเดิม ขณะเดียวกันดินจากใต้พื้นถนนดังกล่าวได้ไหลลงสู่คลองด้านข้างซึ่งเป็นคลองทับนาง ที่เป็นลำคลองเชื่อมต่อรับน้ำจากลาดกระบังและคลองประเวศบุรีรมย์
นายชาญ กลั่นบางแก้ว อายุ 60 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุ ตนกับครอบครัวกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้าน 5 คน ได้ยินเสียงดังลั่นบ้าน เมื่อหันไปมองรอบๆบ้านพบว่า บ้านมีการแตกร้าวและมีเสียงดังตลอดเวลา จึงพากันวิ่งหนีออกจากบ้าน และพบว่าถนนหน้าบ้านกำลังทรุดพังทลายลงไป จึงพากันหนีออกมาในจุดที่ปลอดภัย แล้วจึงรีบแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ ถึงขณะนี้ยังไม่กล้ากลับไปพักอาศัยภายในบ้าน หวั่นบ้านพังถล่มและเสาไฟฟ้าโคนลงมาทับบ้านอีก
ด้านนาย สุเทพ สุขปรั่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.ศีรษะจระเข้น้อย กล่าวว่า สำหรับถนนสายนี้เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จได้ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาโดยไม่มีการลงเสาเข็มแต่อย่างใด ตัวพื้นคอนกรีตมีการเทปูนหนาประมาณ 20 ซม. จึงมีน้ำหนักค่อนข้างมาก อีกทั้งเป็นช่วงภัยแล้งที่มีระดับน้ำลดลงภายในคลองจึงทำให้ดินชั้นล่างเกิดการสไลด์ตัว

ก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 เดือน ที่ดินภายในวัดที่ติดคลองก็เดินการยุบตัวจนดึงศาลาวัดพังเสียหายไปแล้ว 2 รอบ จึงทำให้ อบต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งงบประมาณกว่า 29 ล้านบาท เตรียมสร้างเขื่อนเสาเข็มกันดินสไลด์ตัว แต่ก็ไม่ทันจะได้ก่อสร้างก็มาเกิดเหตุเช่นนี้ก่อน.
ขอขอบคุณที่มาจาก: เดลินิวส์