ตา ยาย ร้องไห้ ถูกร้านค้า กดเงินบัตรคนจน เหลือไว้ให้ดู70บาท

          วันที่ 12 มีนาคม 2564 เรื่องเด่นเย็นนี้ รายงานว่า นายสวาสดิ์ พรมศรี อายุ 77 ปี และ น.ส.เจียน สีเพ็ง อายุ 77 ปี 2 ตายายจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ช เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง เพื่อขอความช่วยเหลือ กรณีเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหายไปประมาณ 1,000 บาท

         โดยคุณตาและคุณยาย เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนไม่มีอาชีพ แถมต้องเลี้ยงดูหลาน 4 คน ที่ผ่านมาจะอาศัยเงินจากบัตรคนจนและเงินเบี้ยคนชรา ในการดำรงชีพและเลี้ยงดูหลาน ๆ แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลานของตนมีอาการคัดจมูก ตนจึงนั่งรถสองแถวมาต่อเรือข้ามฟาก ไปซื้อยาที่ร้านขายยาในตลาดพระประแดง เป็นเงินกว่า 184 บาท คุณยายจึงได้ยื่นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อจ่ายเงินค่ายา

         ทางร้านจึงแจ้งว่า วงเงินในบัตรของยายมีเหลืออยู่พันกว่าบาท คุณยายจึงใช้บัตรสวัสดิการฯ จ่ายแทนเงินสดไป จากนั้นจึงเดินทางกลับมาที่บ้าน พอช่วงสายออกมา ร้านขายของชำแถวบ้านที่เข้าร่วมโครงการเพื่อซื้อไข่ไก่ไว้ทำกับข้าวกิน แต่ทางร้านกลับแจ้งว่า เงินในบัตรเหลือเพียง 70 บาทไม่พอจ่าย ทำให้คุณยายตกใจมาก ซึ่งทางครอบครับทุกคนก็ยืนยันว่า ไม่ได้เอาบัตรไปใช้ซื้อของแต่อย่างใด จนมีชาวบ้านแนะนำว่า ให้ไปเช็กกับทางธนาคาร 2 ตา-ยาย จึงเดินทางไปที่ธนาคารกรุงไทย สาขาปู่เจ้าสมิงพราย จนทราบว่า เงินที่หายไปถูกเบิกจากทางร้านขายยาที่ยายไปซื้อยาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา[ads]

         คุณยาย เล่าอีกว่า ตนอาศัยเงินจากบัตรสวัสดิการฯ เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว จะซื้อของที่จำเป็นเท่านั้น และจะใช้บัตรกับร้านที่ร่วมโครงการเท่านั้น เพราะไม่มีเงินสดติดตัว แม้เงินจำนวนนี้อาจไม่มากสำหรับบางคน แต่สำหรับคนจนอย่างพวกตนนั้นสำคัญมาก พร้อมยอมรับว่าน้อยใจ และตั้งคำถามว่า ทำไมต้องโกงเงินคนแก่เช่นนี้ด้วย

          ด้านร้านขายยา (คู่กรณี) ชี้แจงว่า ทางร้านไม่มีเจตนาโกง แต่กดยอดจ่ายเงินผิด เพราะขณะนั้นมีลูกค้ารายอื่นเข้ามาซื้อของด้วย จึงอาจเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ทางร้านจะตรวจสอบข้อมูลกับทางธนาคารและบิลสินค้า หากตรวจสอบพบว่า เงินเกินไปจริง ก็ยินดีที่จะคืนเงินให้กับคุณตาคุณยาย และขณะเกิดเหตุ เจ้าของร้านไม่อยู่ร้าน จึงรบกวนให้คุณแม่ ซึ่งอายุมากแล้วดูแลร้านและคอยคิดเงินแทน ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะโกงเงินคนแก่ และตอนนี้ทางร้านยอมรับว่าผิดพลาดและได้คืนเงินให้ตายายไปแล้ว

ขอขอบคุณที่มาจาก: เรื่องเด่นเย็นนี้ ช่อง3