ซื้อของออนไลน์แล้วชำรุด แต่ร้านค้าลอยแพ ฟ้องเรียกร้องสิทธิ์ได้

         เชื่อว่านักซื้อของออนไลน์ต้องเคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ เมื่อของมาถึงของชำรุด แต่ก็ไม่ได้มีการรับผิดชอบจากร้าน แถมลอยแพเราอีกด้วย วันนี้เราจึงนำแนวทาง การฟ้องเรียกร้องสิทธิ์ของเรามาฝาก เมื่อโกนร้านปฏิเสธการรับผิดชอบ เราต้องไม่เสียเปรียบ โดยมีผู้มีประสบการณ์ โพสต์ลงกระทู้พันทิปว่า 

         วันนี้ตั้งใจจะเขียนแนวทางในทางดำเนินคดีสำหรับผู้บริโภคเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ท่านซื้อสินค้าขึ้นมา แล้วพบว่าสินค้าที่ซื้อมานั้น ชำรุด บกพร่อง หรือไม่เป็นไปตามโฆษณาของผู้ขายเพื่อไว้เป็นแนวทางของผู้เสียหาย ในการเรียกร้องสิทธิ์ของตนเองตามกฎหมายต่อไป

         จากเหตุการณ์ของผมสังเกตุว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็ทนเจ็บช้ำกับเงินจำนวนเล็กน้อยนี้(เมื่อเทียบกับต้นทุนในการดำเนินคดี) แล้วถูกร้านค้าเหล่านี้เอาเปรียบทั้งนี้กฎหมายไทยจึงได้ออกกฎหมายวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ง่ายขึ้นพูดง่ายๆ ก็คือ ให้ชาวบ้านฟ้องคดีผู้ประกอบการได้ง่ายขึ้น(กว่าการฟ้องคดีแพ่งสามัญ หรือคดีแพ่งมโนสาเร่)และไม่มีค่าธรรมเนียมศาล

         แต่ถึงกระนั้น ผู้บริโภคก็จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจ ถึงกระบวนการบ้างสักหน่อยเพื่อให้การดำเนินคดีนั้นเป็นไปด้วยความสะดวกและรวดเร็ว ผมขอแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนคร่าวๆ ดังนี้

1.ขั้นตอนก่อนฟ้องคดี

1.1 ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขาย ผู้ประกอบการ ก่อนซื้อสินค้าทุกครั้ง และควรหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าจากผู้ขายที่ไม่สามารถระบุตัวตน หรือแหล่งที่มาได้

1.2 เก็บหลักฐานในการซื้อขายทุกครั้ง ให้มากเท่าที่จะสะดวก เช่น ใบเสร็จรับเงิน ภาพถ่ายการส่งมอบสินค้า แชตสนทนา ใบสั่งซื้อทั้งนี้ก็ควรเก็บไว้สักประมาณ 1 ปี หลังจากซื้อขาย

1.3 เมื่อพบความชำรุก บกพร่องของสินค้า ให้รีบติดต่อไปยังผู้ขายทันที เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขตามที่ทั้งสองฝ่ายจะตกลง

2.ขั้นตอนการฟ้องคดี (เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ หรือ ผู้ประกอบการไม่รับผิดชอบ)

2.1 รวบรวมหลักฐานในการซื้อขายที่พบการชำรุด บกพร่องนั้นแล้วเรียงไว้ตามไทม์ไลน์

2.2 เขียนเหตุการณ์ในการซื้อขายสินค้า อธิบายการชำรุด และจุดประสงค์ในการดำเนินคดี

2.3 นำหลักฐานและไทม์ไลน์ ตามข้อ 2.1 และ 2.2 ไปปรึกษาเจ้าพนักงานคดีซึ่งทำหน้าที่ช่วยเหลือศาลในการดำเนินคดีผู้บริโภคอยู่ที่ศาลยุติธรรมในเขตภูมิลำเนาของท่าน เพื่อฟ้องคดี

3.ขั้นตอนหลังจากยื่นฟ้องคดี

3.1 ศาลจะออกหมายเรียกผู้กรณี (ต่อไปเค้าจะมีสถานะว่าจำเลย) มาศาลเพื่อ เจรจาไกล่เกลี่ยก่อนในนัดแรก

3.2 เมื่อถึงวันนัดศาล ให้แต่งตัวไปศาลด้วยชุดสุภาพ กางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้น จะเซฟที่สุด

3.3 หากเจรจาไกล่เกลี่ยสำเร็จ ศาลจะพิพากษาให้ตามที่คู่กรณีตกลงกัน ทำให้คดียุติเสร็จเด็ดขาด ไม่สามารถนำมาฟ้องกันได้อีก

3.4 หากเจรจากันไม่สำเร็จ ศาลก็จะนัดวันพิจารณา เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายนำสืบพยานหลักฐาน แล้วพิจารณาคดี พิพากษาตามพยานหลักฐาน

เหตุการณ์สมมุติ

1.ผมได้สั่งซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์บนเว็บไซต์แห่งหนึ่ง เป็นกล้องติดหน้ารถยนต์ ราคาประมาณสองพันบาท ตกลงเก็บเงินปลายทาง

2.สินค้ามาส่งในสภาพเรียบร้อย ทำการชำระเงินกับผู้ส่งครบถ้วน

3.แต่ปรากฎว่า หลังจากใช้งานได้วันเดียวพบว่าเจ๊งไปแล้ว

4.ติดต่อไปที่ผู้ขาย ทั้งตัวแทนและร้านค้า กลับบ่ายเบี่ยงไม่รับผิดชอบ

5.เงียบ…. 

6.เสียเงินฟรี

ขั้นตอนที่ 1 ส่งของกลับให้เค้า และทำหนังสือเรียกให้เค้าคืนเงินมาขั้นตอนนี้ให้ส่งโดยบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เท่านั้น และเขียนใบตอบรับติดไปด้วย

ตัวอย่างใบตอบรับ[ads]

ขั้นตอนที่ 2 ร่างฟ้องเพื่อดำเนินคดีในคดีผู้บริโภคใช้ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคสามารถเอาตัวอย่างคำฟ้องนี้ไปอ่านศึกษาดู และเทียบเคียงดัดแปลงได้หลักคือ คำฟ้องต้องบรรยายให้ชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหา คำขอบังคับ และข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น พูดง่ายๆว่า 1.เหตุการณ์มันเป็นยังไง 2.เราเสียหายยังไง 3.เราต้องการอะไร 

           หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะนำเอกสารคำฟ้องของเราไปแปะประตูบ้านจำเลยเพื่อให้เค้าทราบว่าขณะนี้ได้ถูกฟ้องร้อง ดำเนินคดีแล้ว

          จากนั้นก็รอวันขึ้นศาล ซึ่งคดีนี้ไม่ได้ขึ้นสืบพยานเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯได้ยอมรับผิดทุกประการ และชำระเงินให้เกือบเต็มตามจำนวนในฟ้องซึ่งก็ติดต่อชำระมา ในวันใกล้ๆ ที่จะถึงกำหนดนัดขึ้นศาลแทนที่บริษัทฯจะรีบเยียวยาผู้บริโภคเสียก่อนแต่เนิ่นๆสรุปแล้วรวมใช้ระยะเวลาประมาณ  4-5 เดือน (เนื่องจากโควิททำให้เลื่อนคดี)และเนื่องจากเป็นคดีผู้บริโภค ทำให้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล และค่าส่งหมาย

          เจ้าของกระทู้ก็หวังว่าหากผู้บริโภคไม่ลุกขึ้นมา ทวงสิทธิ์ของตนเองตามกฎหมายแล้ว บริษัทฯก็คงนิ่งเฉยและหากินแบบนี้ต่อไปกระทู้นี้จึงขอให้เป็นข้อมูลและแนวทาง แก่ผู้บริโภค เพื่อที่จะลุกขึ้นมาทวงสิทธิ์ของตนเองตามกฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ต่อไป

ขอขอบคุณที่มาจาก: รักษาการหัวหน้าเผ่า