เป็นที่วิจารณ์กันเป็นอย่างมากเมื่อมีอาจารย์ท่านหนึ่งได้โพสต์ภาพและข้อความ ฝากถึงช่างแต่งหน้า หลังจากที่ใช้บริการให้มาแต่งหน้าในงานก๊ฬาของนักเรียน หลังจากจบงานเสร็จทุกอย่างก็จบไปด้วยดี แต่ที่ติดใจคือช่างแต่งหน้าฝีมือแบบนี้มารับงานได้ยังไง รุ่นพี่มัธยมแต่งหน้าให้น้องยังสวยกว่า
โดยครูสาวระบุว่า กีฬาสีผ่านไป ไม่ติดใจอะไรทั้งนั้น ติดใจอยู่อย่างเดียว ใครแต่งหน้าให้นักเรียนชั้นอย่างนี้ คุณยังกล้าเรียกตัวเองว่าช่างแต่งหน้าอยู่หรอคะ เลิกเหอะอายแทนค่ะคิดได้ไงตาสีฟ้าแก้มชมพู เคยดูมั้ยโมเมพาเพลิน ตู่ซาวติสน่ะ ตอนเห็นโคตรสงสารเด็ก บางคนแต่งเสร็จวิ่งไปร้องไห้ในห้องน้ำ บางคนพ่อแม่มารอดูลูกเดินขบวนแต่กลับมาเห็นหน้าลูกโดนแต่งแบบรูปทางขวางี้หรอปล. ว่าจะไม่โพสแล้วนะ แต่เพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่เด็กปีต่อๆไปค่ะจะได้ไม่เป็นเหยื่ออีก เลือกช่าง เลือกคนมีจรรยาบรรณค่ะ”
ต่อมามีชาวเน็ตซึ่งออกตัวว่าเป็นทีมช่างแต่งหน้า ได้โพสต์แย่งครูสาวโดยระบุว่า ขอยุ่งด้วยหน่อยนะครูสาวสวย เข้าใจความรู้สึกครูนะ แต่ครูก็ต้องเข้าใจความรู้สึกช่างแต่งหน้าด้วยเหมือนกัน ครูโพสแบบนี้ถือว่า ดูถูก ช่างแต่งหน้า มากเลยนะ จริงอยู่ที่ช่างแต่งหน้าไม่ได้เรียนและจบมามีใบประกอบวิชาชีพ แต่กว่าที่เขาจะมาเป็นช่างแต่งหน้า เขาสะสมประสบการณ์มามากเท่าไหร่แล้ว แต่งหน้าคนมีชื่อเสียงเขาก็แต่งมาเยอะแล้ว แต่งสวยกว่านี้เขาก็มี #แต่ครูต้องเข้าใจว่า การแต่งหน้าแบบที่เขาแต่งครั้งนี้ "เขาแต่งตามคอนเสบที่นักเรียนให้โจทย์มา" คืออยากแต่งแบบบุญบั้งไฟสมัยโบราณ ช่างเขาก็แต่งแบบนี้ แต่ถ้าบอกเขาว่าอยากแต่งสวยคม ช่างเขาก็แต่งให้ได้
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต
นี่ก็ทำ ผิดตรงไหน
ก็เป็นความคิดเห็นอีกหนึ่งด้านของชาวเน็ตซึ่งมองว่าการแต่งหน้าแบบนี้นั้นไม่แปลก เพราะคอนเซ็บของโรงเรียนคืองานบุญ โบราณ ถ้าอยากให้แต่งแบบคมๆก็แต่งได้ และมีการแต่งแบบนี้ทั่วไป ซึ่งในขณะเดียวกัน ก็มีคนเข้าข้างครู เนื่องจาก เห็นหน้าน้องแล้วไม่ได้สวยเหมือนช่างคนอื่น ที่แต่งบ็อกเดียวกัน อย่างไรก็ใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวกันด้วยนะคะ
ขอขอบคุณที่มาจาก: เบนซีน แบลคเลเบิล
