จากดราม่าเด็กขับรถ กลายเป็นความรันทดต้องทำงานเลี้ยงครอบครัว

         จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้แชร์ภาพของเด็กชาย วัยเพียง 10 ปีขับรถกระบะบนถนนในเขตตัวเมืองชลบุรี โดยเจ้าของโพสต์ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมระบุว่า ” เด็กตัวเท่านี้ขับรถได้ไง แถมในรถมีน้องอีกคน ย้ำว่าขับไม่ใช่นั่ง เด็กน่าจะไม่ถึง 10 ขวบเลย ทำไงดี กลัวมีอันตรายจัง พิกัดหน้าตลาดซอยหลังบิ๊กซีชลบุรี หมายเลขทะเบียน ผอ 7XX ชลบุรี กระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน” จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามตัวพ่อและแม่มาทำการเปรียบเทียบปรับ แต่สุดท้ายผู้เป็นแม่มีเงินติดตัวเพียง 50 บาท จนผู้กำกับ สภ.เสม็ด ต้องเสียค่าปรับให้​

      ล่าสุด ​ (13​ มี.ค.)​ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังห้องแถวให้เช่าเลขที่ 39/42 ต.ห้วยกระปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านของ​ ด.ช.ปู (นามสมมติ) อายุ 13 ปี เด็กชายที่ถูกระบุในโลกออนไลน์​และได้พบกับ นายสุชาติ มั่นการ อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นพ่อของ​เด็กชายคนดังกล่าว ในสภาพนอนป่วยด้วยโรคเบาหวาน ความดันและโรคหัวใจจนไม่สามารถออกไปทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวได้ และมีเพียง นางสายพินธ์ เผือกรอด อายุ 48 ปี ภรรยาที่ในวันนี้ต้องลาออกงานมาดูแล

      พร้อมยอมรับว่า​ตนเอง และสามียินยอมให้ลูกขับรถกระบะคันดังกล่าวจริงๆ เพราะเห็นว่าลูกสามารถขับรถได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะ รถพ่วง หรือรถเทรลเลอร์ ไม่เว้นแม้แต่รถแบ็กโฮข เนื่องจากที่ผ่านมา เคยไปรับจ้างทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวแทนผู้เป็นพ่อในช่วงปิดเทอม

      นางสายพินธ์ ยังบอกอีกว่า ในวันเกิดเหตุสามีไม่สามารถขับรถพาตนเองนำของเก่าที่เก็บจากที่ต่างๆ ไปขายเพื่อนำเงินมาซื้อกับข้าวเย็นได้​  ตนเองจึงให้ลูกชายขับรถไปรับและส่งแทนโดยไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลาย พร้อมยืนยันว่าในช่วงที่ลูกชายถูกแอบถ่ายภาพตนเองก็อยู่ด้วย เพียงแต่ลงไปซื้อกับข้าวในตลาดจึงทำให้คนถ่ายภาพเห็นเพียงแต่ว่าเด็กอยู่ในรถกันเพียงลำพัง

      เช่นเดียวกับ​ นายสุชาติ​ ผู้เป็นพ่อที่บอกว่า ตนเองป่วยจนไม่สามารถทำงานขับรถแบ็กโฮหาเลี้ยงครอบครัวได้ จนต้องปล่อยให้ภรรยา​ ออกไปรับจ้างทำงานในโรงโม่หินที่มีรายได้วันละ 336 บาทเพียงคนเดียว แต่สุดท้ายก็ต้องลา ซึ่งหากวันไหนไปทำงานไม่ได้ก็ไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัว และสุดท้ายก็ต้องลาออกจากงานมาดูแลตนเอง และยังต้องหาเงินจ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 3 พันบาท ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายคนอาจจะคิดว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของตนเอง

        แต่ที่จริงแล้วเป็นของลูกชายคนโตที่ในวันเกิดเหตุได้นำมาจอดไว้ที่บ้าน และเป็นวันที่ตนเองต้องนำของเก่าที่เก็บไว้ไปขายเพื่อนำเงินมาซื้อกับข้าวมื้อเย็น แต่สุดท้ายกลับถูกแอบถ่ายรูปโพสต์ในออนไลน์​

       ด้าน​ ด.ช.ปู​ บอกว่า รู้สึกเสียใจที่มีคนถ่ายรูปและนำไปโพสต์ลงในโลกออนไลน์โดยไม่ถามข้อเท็จจริงก่อน​ ซึ่งตนเองเลือกไม่ได้ที่ต้องทำเช่นนี้ เพราะครอบครัวตนเองไม่หมือนคนอื่น อย่างไรก็ดี ทุกวันนี้พยายามที่จะหาทางช่วยเหลือครอบครัวทุกทาง​ อะไรทำแล้วได้เงินก็จะทำทั้งรับจ้างทั่วไป​ ขับรถแบ็กโฮ หรือหาปลา แต่ก็ไม่เคยทิ้งการเรียน เพราะปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนวัดเขาเชิงเทียน 

      ซึ่งอย่างไรก็ดีหากท่านใดต้องการบริจาคเงินช่วยเหลือครอบครัว​ ด.ช.ปู สามารถบริจาคได้ที่หมายเลขบัญชีธนาคารกรุงไทย 7830290156 นายสุชาติ มั่นการ

ขอขอบคุณที่มาจาก : mgronline.com