คลัง ขยายโควต้ารับเงินเยียวยา 5,000 บาท

          นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบตามที่ท่านอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอให้ทบทวนมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม

          โดยขยายจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์เยียวยาเพิ่มอีก 6 ล้านคน รวมเป็น 9 ล้านคน จากเดิมที่ 3 ล้านคน สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 39และมาตรา 40 รวมถึงกลุ่มแรงงานนอกระบบที่ไม่ได้อยู่ในประกันสังคมด้วย เพื่อให้ครอบคลุมทั่วถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จะได้รับเงินชดเชยรายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน

          เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยเงินชดเชยรายได้ระยะแรกจะถูกนำมาใช้ในเดือนเมษายนจำนวน 45,000 ล้านบาท เงินชดเชยดังกล่าว ยังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยให้กรมสรรพากรเสนอร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป สำหรับบุคคลที่จะเข้าเกณฑ์ผู้ประกันตนมาตรา 39 หมายถึง ผู้ประกันตนโดยสมัครใจที่ยังอยากส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม หลังผันตัวออกมาประกอบธุรกิจส่วนตัว หรือมีเหตุให้ต้องหลุดออกจากงานเดิมแต่ยังต้องการคงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของประกันสังคมไว้

         จึงไปสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตน ส่วนมาตรา 40 คือ เป็นผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ หรือแรงงานนอกระบบ มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์แต่ไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ ต้องเป็นบุคคลที่ไม่ได้เป็นลูกจ้างในบริษัทเอกชนตามประกันสังคมมาตรา 33 และไม่เคยสมัครเป็นผู้ประกันตนในมาตรา 39 ไม่เป็นข้าราชการ หรือบุคคลที่ถูกยกเว้นตามกฎหมายประกันสังคม บุคคลพิการที่สามารถรับรู้สิทธิประกันสังคม

         นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ยังได้แนะนำผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าสามารถเข้าร่วม “โครงการสินเชื่อฉุกเฉิน“ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สนับสนุนสินเชื่อวงเงิน รวม 40,000 ล้านบาท

         แบ่งเป็นธนาคารละ 20,000 ล้านบาท เพื่อปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ 0.1% ต่อเดือน วงเงินกู้ต่อรายสูงสุด 10,000 บาท เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่ต้องชำระเงินกู้ 6 เดือนแรก ที่สำคัญคือไม่ต้องใช้หลักประกันใดๆ คุณสมบัติผู้กู้ต้องมีสัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป มีถิ่นที่อยู่อาศัยแน่นอน สามารถติดต่อได้ ประกอบอาชีพอิสระที่มีรายได้เดือนละไม่เกิน 30,000 บาทได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เช่น พ่อค้าแม่ค้า คนขับรถโดยสาร แท็กซี่ สามล้อ มัคคุเทศก์ เป็นต้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนฝ่าวิกฤติโควิด-19 ไปได้ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดและยื่นเรื่องออนไลน์ได้ทั้งสองธนาคาร[ads]

        ส่วน “โครงการสินเชื่อพิเศษ” เพื่อเสริมสภาพคล่องชั่วคราวในการดำรงชีวิตแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวธนาคารออมสินสนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 วงเงินกู้ต่อรายสูงสุด 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน ให้ผ่อนชำระคืนนานถึง 3 ปี

        โดยการค้ำประกันสามารถใช้บุคคลหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ได้ เพียงมีอายุ 20 ปีขึ้นไป สัญชาติไทย มีถิ่นที่อยู่อาศัยแน่นอนสามารถติดต่อได้ เป็นผู้มีรายได้ประจำ แต่รายได้ลดลงหรือขาดรายได้เนื่องจากได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 และภัยอื่นๆซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้ ธนาคารออมสินเปิดให้บริการจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563 

          สรุปคราวได้ดังนี้ กระทรวงการคลัง ขยายโควต้ารับเงินเยียวยา 5,000 บาท รวม 9 ล้านคน ชี้ AI คือ สุดยอดระบบคัดกรอง พร้อมแนะทางรอดผู้หลุดเกณฑ์ ยังมีสินเชื่อดอกเบี้ย 0.1% รออยู่ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ แก่หลายท่านนะคะ

เรียบเรียงโดย: tkvariety