คนลงทะเบียน ชิมช้อปใช้ ผิดวัตถุประสงค์ถูกระงับสิทธิ์เพียบ

         โครงการ ชิมช้อปใช้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่แจกเงินเที่ยวให้ประชาชนคนละ 1,000 บาท วันละ 1 ล้านคน จนครบ 10 ล้านคน เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2562 – 15 พฤศจิกายน 2562 นั้น ทำให้มีประชาชนหลายคนเข้าไปลงทะเบียนเพื่อรับเงินเป็นจำนวนมาก และแต่ละวันก็เต็มจำนวน 1 ล้านคนเร็วมาก และล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า

          หลังเปิดรัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ในมาตรการ “ชิมช้อปใช้” มาแล้ว 4 วัน(23-26ก.ย.) พบว่า มีผู้สนใจเข้าร่วมเต็มโควต้า 1 ล้านคน ในทุกวัน จากข้อมูลช่วง 4 วันแรก พบว่า กลุ่มวัยทำงาน อายุ 31-60 ปี มีสัดส่วนการลงทะเบียนมากสุด คิดเป็น 54% รองลงมา คือกลุ่มวัยเริ่มทำงาน อายุ 22-30 ปี สัดส่วน 32% กลุ่มนักศึกษา อายุ 18-21 ปี สัดส่วน 8% และ กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป สัดส่วน 6%

         ส่วนพื้นที่ซึ่งผู้ลงทะเบียนต้องการใช้สิทธิ์มากสุด พบว่า มีครบทั้ง 77 จังหวัด โดยส่วนใหญ่เป็นจังหวัดในภาคกลาง 43% รองลงมา คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16% ภาคตะวันออก 15% ภาคใต้ 11% ภาคเหนือ 9% และ ภาคตะวันตก 6%

         สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนไว้ในวันแรก (23ก.ย.) หลังจากตรวจสอบสิทธิ์จากฐานข้อมูลกระทรวงมหาดไทย และตรวจสอบจังหวัดที่แสดงความประสงค์ไปท่องเที่ยวไม่ซ้ำซ้อนกับจังหวัดในทะเบียนบ้านแล้ว พบว่า มีผู้ผ่านเกณฑ์ 807,321 ราย ซึ่งผู้ที่ได้รับสิทธิ์จะทยอยได้รับ SMS ยืนยันภายในวันนี้ (26ก.ย.) และสามารถเดินทางท่องเที่ยวพร้อมเริ่มจับจ่ายใช้สอยได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (27ก.ย.) เป็นต้นไป

         ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว "ชิมช้อปใช้" ของรัฐบาล ที่เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ 1,000 บาท เพื่อใช้ท่องเที่ยวที่ใดก็ได้ในประเทศไทย ยืนยันว่า การนำเงินไปใช้ท่องเที่ยวครั้งนี้เป็นการกระจายรายได้ลงสู่ชุมชน ไม่ใช่การกระจุกตัวอยู่ที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายใหญ่ ขณะที่มั่นใจว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ 40,000,000 คนแน่นอน

        สำหรับคนทีลงทะเบียนไปแล้วก็ต้องรอเช็กสิทธิ หรือ SMS ยืนยันนะคะว่าจะได้รับสิทธิหรือไม่ เพราอาจจะเสียสิทธิได้ ส่วนท่านไหนที่ได้รับเงินแล้วก็สามารถออกไปเที่ยวได้ตามวันเวลาที่กำหนดนะคะ 

ขอขอบคุณที่มาจาก : tnnthailand.com