ข่าวดีสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กยศ.ให้สิทธิพักหนี้ 1 ปี

             ข่าวดีสำหรับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและเป็นผู้กู้กยศ.กองทุนเพื่อการศึกษา ล่าสุด นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ระบุ คณะกรรมการกองทุนฯ มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ กยศ. ที่ค้างชำระหนี้โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.ลดเบี้ยปรับในอัตรา 80% สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ค้างชำระหนี้และปิดบัญชีในครั้งเดียว ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 62 – 29 ก.พ. 63

2.ลดเบี้ยปรับในอัตรา 75% เฉพาะผู้กู้ยืมเงินกลุ่มก่อนฟ้องคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 62 – 29 ก.พ. 6

3.พักชำระหนี้ 1 ปี สำหรับผู้กู้ยืมที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เฉพาะกลุ่มผู้กู้ยืมก่อนฟ้องคดี

         -กรณีผู้ที่มีงวดชำระเป็นรายปี จะพักชำระหนี้ในงวดปี 2563 และผู้กู้ยืมจะต้องกลับมาชำระหนี้ ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ส่วนกรณีผู้ที่มีงวดชำระเป็นรายเดือน จะพักชำระหนี้ 12 เดือน นับตั้งแต่เดือนถัดไปที่กองทุนอนุมัติ โดยในระหว่างพักชำระหนี้กองทุนจะไม่ถือว่าผู้กู้ยืมผิดนัดชำระหนี้  ทั้งนี้ จากข้อมูลในระบบพบว่ามีผู้กู้ยืมเข้าข่ายที่จะได้สิทธิพักชำระหนี้ ประมาณ 335,000 ราย ผู้กู้สามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่กองทุนกำหนดได้ทาง studentloan.or.th/promotion ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 62 – 29 ก.พ. 63 

4.ปรับลดอัตราเบี้ยปรับหรือค่าธรรมเนียมกรณีผิดนัดชำระเงินกู้ยืมคืน จากอัตราปัจจุบัน (ร้อยละ 12-18 ต่อปี) เหลืออัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการลดภาระหนี้ของผู้กู้ยืมเงินที่ค้างชำระให้สามารถผ่อนชำระเงินคืนกองทุนได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนงวดที่ผิดนัดชำระจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 ยังคิดอัตราเบี้ยปรับเท่าเดิม

5.ปรับเพิ่มค่าครองชีพรายเดือนให้ผู้กู้ยืมทุกระดับการศึกษาอีกเดือนละ 600 บาท/คน โดยผู้กู้ยืมระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญปรับเพิ่มจาก 1,200 บาท เป็น 1,800 บาท ระดับ ปวช./ปวส./ปริญญาตรี ปรับเพิ่มจาก 2,400 บาท เป็น 3,000 บาท

          เป็นข่าวดีสำหรับผู้ถือบัตรคนจนนะคะพักชำระกยศ.ได้อีก 1 ปี ส่วนในเรื่องกู้ยืมกองทุนขอยืนยันว่าในปีนี้ไม่มีการจำกัดโควต้าการให้กู้ยืมเงินสำหรับผู้กู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยทั้งหมดนี้กองทุนไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินซึ่งเป็นผลมาจากการชำระหนี้ที่ดีขึ้นและมาตรการหักเงินเดือน” ผู้จัดการกองทุนฯ กล่าวในที่สุด

ขอขอบคุณที่มาจาก: กยศ.