กลายเป็นเรื่องราวที่สร้างความฮือฮาอย่างมาก เมื่อโลกออนไลน์ได้แชร์ภาพของดวงไฟประหลาดที่ลอยที่ลอยอยู่เหนือท้องฟ้า ก่อนจะตกลงหลังพระธาตุท้ายวัดร้าง โดยชาวบ้าน สบบง จังหวัดพะเยา ได้ถ่ายคลิปเอาไว้และนำมาโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวทำให้หลายๆคน เชื่อว่าอาจจะเป็น ลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ 
ล่าสุด กัปตันกฤษณภัทร ปิงสุแสน ซึ่งเป็นกัปตันเรือ และเป็นอาจารย์สอนวิชา ดำรงชีพในทะเล ได้ออกมาเผยถึงเรื่องนี้ว่า
ขออนุญาตพื้นที่ส่วนตัวชี้เเเจงกรณีที่บ้านปงหลวงตกเป็นข่าวใหญ่โต เรื่องแสงหรือลูกแก้ววิเศษตกลงกลางวัดร้างนะครับ พอดีตัวกระผมเองมีภูมิลำเนาอยู่หมู่บ้านนี้ อีกทั้งยังเป็นอาจารย์สอนวิชา ดำรงชีพในทะเล เหตุผลที่ผมต้องชี้เเจงไม่มีเจตนาขัดความเชื่อความศรัทธาเเต่เกรงว่าข่าวจะไปถึงหูบรรดานักเดินเรือ หรือ บรรดาลูกศิษย์ที่ผมสอนๆมามากกว่าหมื่นๆคนจะมองผมในด้านลบว่าทำไมท่านไม่ชี้เเจงทั้งๆที่ท่านรู้ดีที่สุดว่ามันคือแสงไฟจากอะไร ผมเรียนชี้เเจงดังนี้นะครับ
บ้านปง ปัว หล่าย ถือได้ว่าเป็นหมู่บ้านชาวเรือ เยาวชนส่วนใหญ่ทำงานเดินเรือพาณิชย์
อุปกรณ์ดังกล่าว เป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตของชาวเรือ ตามข้อกำหนดของ SOLAS ซึ่งองค์กรทะเลโลก IMO กำหนดให้เรือที่มีขนาดเกิน 500 GRT จะต้องมี 12 ชิ้น ไว้ใช้ยามฉุกเฉินกรณีต้องสละเรือใหญ่ และเพื่อง่ายต่อการค้นหาและกู้ภัย ชาวเรือจะยิงพลุสัญญาณดังกล่าวเพื่อให้ ฮ . เห็นแสงสว่างจากพลุและง่ายต่อการค้นหาผู้ประสบภัยทางทะเล ซึ่งสามารถยิงขึ้นบนฟ้าได้สูงถึง 300 เมตร ส่องสว่างในยามค่ำคืนได้ถึง 30000 แรงเทียน อุปกรณ์ดังกล่าวเมื่อใกล้หมดอายุลูกเรือมักจะนำมาจุดบูชาถวายเสด็จในกรมฯ ซึ่งไม่แปลกเพราะวัดปงหลวงเป็นสถานที่ตั้งศาลกรมหลวงชุมพร จึงจออนุญาตชี้เเจงพ่อแม่พี่น้องให้เข้าใจตามนี้ครับ เพราะมีข่าวบางสำนักกล่าวถึงเลขหวย ผมไม่อยากให้ชาวบ้านงมงายตามกระแสข่าว
ด้วยความเคารพ กัปตันกฤษณภัทร ปิงสุแสน
จากความคิดเห็น
ต้องเข้าใจใหม่ 
สำหรับเรื่องนี้ก็อยากให้เข้าใจกันใหม่นะคะ เพราะดวงไฟประหลาดที่เชื่อกันว่าเป็นลูกแก้ว หรือลูกไฟวิเศษนั้น เป็นแค่อุปกรณ์ช่วยชีวิตของนักเดินเรือเท่านั้น ฉะนั้นเห็นแล้วก็อย่าแตกติ่นกันนะคะ
ขอขอบคุณที่มาจาก : กัปตันกฤษณภัทร ปิงสุแสน
