กรณีศึกษา จ๊ะ อาร์สยาม ซื้อบ้านมีโฉนดถูกต้องแต่ขายต่อไม่ได้

        กลายเป็นอีกหนึ่งเคสที่นับว่าเป็นอุทาหรณ์ราคาแพงสำหรับคนที่ซื้อบ้านหรูย่านบางบัวทอง ที่มีนักร้องชื่อดังอย่าง จ๊ะ อาร์สยาม ที่บังเอิญว่าจะขายบ้านต่อให้กบคนรู้จักปรากฏว่าขายต่อไม่ได้ทั้งๆที่มีโฉนดถูกต้อง ซึ่งล่าสุดทางเพจ อสังหาพารวย by Palin  ได้ออกมาโพสต์แชร์เรื่องนี้ไว้ระบุว่า 'กรณีศึกษาเคสคุณจ๊ะอาร์สยาม บ้านย่านบางบัวทอง โฉนดถูกต้องแต่ขายต่อไม่ได้' 

#กรณีศึกษาเคสคุณจ๊ะอาร์สยาม #ช่องโหว่ของกฎหมาย

วันนี้เดี๋ยวเราจะมาดูกรณีศึกษาของเคสคุณจ๊ะอาร์สยามนะคะ ซึ่งเป็นกรณีที่หลายคนให้ความสนใจ กลายเป็นประเด็นร้อนทางสังคม

เคสนี้เป็นเคสที่คุณจ๊ะ อาร์สยาม ไปซื้อบ้านจากโครงการจัดสรร ของบริษัทมหาชนรายหนึ่งใน

ซึ่งก็ โอนได้ปกติ แต่พอจะขายต่อเพื่อคุณจ๊ะจะเอาเงินไปซื้อบ้านหลังใหม่ โดยการขายให้คนรู้จัก แต่ปรากฎว่า ธนาคารและกรมที่ดิน บอกว่า ที่ดินแปลงนี้ ติดคดีอยู่ ธนาคารไม่อนุมัติคร่า  #งงกันไปเลยทีเดียว

เหตุผลที่ไม่อนุมัติ ไม่ใช่เพราะคนมาซื้อติดเครดิตคนมาซื้อต่อมีปัญหา แต่เพราะที่ดินคุณจ๊ะมีปัญหา แล้วเมื่อไปสอบถามลูกบ้านคนอื่นๆในหมู่บ้านเดียวกันก็เจอปัญหาเหมือนกัน ลูกบ้านจะรีไฟแนนซ์ก็ทำไม่ได้ เช่นกัน

เท่านั้นแหล่ะ กลายเป็นกระแสโซเชียลทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นไปได้ยังไง 

>>>>>>>>>>>>> อยากรู้แล้วใช่ไหมคะ ว่าเกิดได้อย่างไร มาลำดับ timeline เคสนี้กันก่อนค่ะ 

เล่าย้อนหลังซักเล็กน้อย ของเคสนี้ เคสนี้ เกี่ยวข้องกับคดีล้มละลายของศาลล้มละลายกลาง หมายเลขแดง ที่ 1268/2544

ปี 2539 บริษัท สมประสงค์แลนด์ จำกัด นำที่ดินแปลงดังกล่าวมาพัฒนาหมู่บ้านจัดสรร ภายใต้ชื่อ หมู่บ้านแสงอรุณ

ปี 2540 ช่วงฟองสบู่ บริษัทเกิดปัญหาทางการเงิน

6 ก.ย. 2544 บริษัท สมประสงค์แลนด์ จำกัด (มหาชน) เป็นลูกหนี้ โดย บริษัท สมประสงค์แลนด์ จำกัด ถูกฟ้องล้มละลาย

แต่ปรากฏว่าก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งให้ล้มละลาย บริษัท สมประสงค์แลนด์ จำกัด (มหาชน) ได้โอนขายที่ดินให้กับบริษัทอื่นไปก่อนเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2551 ซึ่งตามกฎหมายล้มละลายกำหนดว่า การโอนทรัพย์สินที่ลูกหนี้กระทำในช่วงเวลา 3 เดือนก่อนมีการขอให้ล้มละลาย และภายหลังจากนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องทำการสอบสวนและพิจารณาว่าการโอนดังกล่าวทำให้เจ้าหนี้รายใดได้เปรียบเจ้าหนี้รายอื่นซึ่งอยู่ในข่ายเพิกถอนการโอนหรือไม่ …. ง่ายๆว่ามีลักษณะ ถ่ายเททรัพย์สินระหว่างมีคดี

ปี 2551 บริษัท วินเซอร์ เฮ้าส์ จำกัด ได้เข้าซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวจาก บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) 

ไป และมีการขายต่อให้กับให้กับบริษัท เรสซิเด้นท์ นัมเบอร์ไนน์ จำกัด (เจ้าของโครงการจัดสรร ที่คุณจ๊ะเข้าไปซื้อนั่นเอง) ซึ่งเกิดการซื้อขายในวันเดียวกันคือ 30 ก.ย.2551

ปี 2553 บริษัท เรสซิเดนท์นัมเบอร์ไนน์ เริ่มพัฒนาโครงการจัดสรร บน ที่ดิน 164 ไร่ ซึ่งมีการนำมาพัฒนาหมู่บ้านจัดสรร 3โครงการ ทำเป็นโครงการมีจำนวนยูนิต กว่าหนึ่งพันยูนิต

ปี 2558 คุณจ๊ะ อาร์สยาม มาซื้อบ้านในโครงการของบริษัท เรสซิเดนท์นัมเบอร์ไนน์

ปี 2559 คุณจ๊ะ อาร์สยาม ผ่อนชำระบ้าน โปะบ้าน จนได้โฉนดมาครอบครอง วันที่ได้โฉนดมาครอบครอง ทางกรมที่ดิน ยังไม่ได้มีการแจ้งเรื่องปัญหาคดีดังกล่าว

ปี 2562 ความเพิ่งมาแตกปีนี้ เมื่อลูกบ้านเก่าของสมประสงค์ ไล่ฟ้อง บมจ.สมประสงค์ ตอนสมัยทำหมู่บ้านแสงอรุณ กรมบังคับคดีเลยมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์

ปี 2562 ปีเดียวกัน กลายเป็น talk of the town เมื่อคุณจ๊ะ ต้องการขายบ้าน ให้คนรู้จัก แต่ปรากฎว่าขายต่อไม่ได้ ธนาคารและกรมที่ดิน บอกว่า ที่ดินแปลงนี้ ติดคดีอยู่ ธนาคารไม่อนุมัติคร่า 

ติดคดีฟ้องร้องระหว่างโครงการบ้านและเจ้าของที่ดินคนเดิม ทำให้ไม่สามารถขายบ้านหลังดังกล่าวได้แม้ว่าจะเป็นคนถือโฉนดถูกต้องตามกฏหมายก็ตาม

กรณีศึกษาของเคสคุณจ๊ะ

ในมุมของทนายของคุณจ๊ะ ห้คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการจะซื้อบ้านว่า ต่อไปนี้ต้องตรวจสอบกันให้ดี

1.ตรวจสอบ ไปยังกรมที่ดินก่อนอันดับแรก ถ้าที่ดินแปลงนี้มันมีปัญหาจะถูกอายัด เจ้าพนักงานเขาจะไม่โอนจะไม่ขายให้อยู่แล้ว

2.ตรวจสอบกรมที่ดินไม่พอ ต้องไปตรวจสอบที่ ศาลล้มละลายกลางว่าที่ดินแปลงนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดหรือไม่ 

ก็คงมีสองหน่วยราชการที่เราน่าจะป้องกันตัวเราเองได้ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือซื้อบ้านที่ดินเหล่านี้ ก็คงเป็นการให้คำแนะนำพื้นฐานทั่วไป"

สำหรับเคสนี้แพรรินทร์มองว่า เคสคุณจ๊ะ ชนะคดีอยู่แล้ว และได้เงินคืน แต่เสียเวลามากกว่า เพราะแทนที่จะได้เอาเงินไปทำอย่างอื่น อย่างที่ของคุณจ๊ะต้องการไปซื้อบ้านหลังใหม่ ก็ทำให้ยังไม่สามารถนำเงินไปซื้อหลังใหม่ได้ทันที

โดยรวมดูแล้วรูปลักษณะเคสคล้าย คดีทุจริตที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งเป็นที่ธรณีสงฆ์จากการที่เจ้าของที่ ยกที่ดินให้แก่วัด แต่ต่อมาเกิดการขายและโอนที่ดินดังกล่าวให้กับบริษัท อัลไพน์เรียลเอสเตท จำกัด และบริษัท อัลไพน์กอล์ฟแอนด์ สปอร์ต คลับ จำกัด (ลองศึกษาอ่านเพิ่มเติมกันดูนะคะ)

ส่วนของบริษัท เรสซิเดนท์นัมเบอร์ไนน์ นั้นหลายคนมองว่ารู้เห็นฉ้อโกงลูกบ้าน แต่จริงๆแล้วไม่สามารถสรุปแบบนั้นได้ซะทีเดียวนะคะ ⁉️เพราะกระบวนการทั้งหมดของ บริษัท เรสซิเดนท์นัมเบอร์ไนน์ ทำมาถูกต้องกระบวนการทางกฎหมาย คือ ซื้อสินทรัพย์ที่มาจากทาง บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) และทำการขออนุญาตจัดสรรอย่างถูกต้อง …ทาง บริษัท เรสซิเดนท์นัมเบอร์ไนน์อาจจะไม่ได้รับรู้เรื่องคดีอยู่ก่อนแล้วก็เป็นไปได้ ก็ต้องรอพิสูจน์กันอีกที ว่ามีการรับรู้เรื่องคดีอยู่แล้วก่อนหรือไม่

โดยสรุป เคสนี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นเคสที่เกิดจากช่องโหว่ของกฎหมาย ในมุมของแพรรินทร์

การไปตรวจสอบที่กรมที่ดินยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุด

ส่วน ถึงให้ไปตรวจสอบที่ศาลล้มละลายกลาง ก็อาจไม่พบข้อมูล เพราะคดีบางคดียังฟ้องกันอยู่ ยังไม่ยุติ และด้วยสารระบบข้อมูล ก็ยังไม่ได้ลิ้งค์กัน ทั้งหมดทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกันอยู่ดี

คนที่รู้ดีที่สุดคือ คนที่เป็นเจ้าของที่ดิน ที่รู้ดีว่าที่ดินตัวเองมีปัญหา

      เพราะฉะนั้นเคสนี้ จะว่าแจ็คพอต ก็เรียกว่าแจ็คพอตจริงๆ ตามที่คุณจ๊ะว่า และพัวพันกันหลายฝ่ายมากๆตั้งแต่ลูกบ้านโครงการแสงอรุณที่เคยซื้อบ้านโครงการไปแล้วก่อนโดนเท! และต้องการร้องขอความยุติธรรมบริษัท เรสซิเดนท์นัมเบอร์ไนน์ ที่ซื้อสินทรัพย์ที่มาจากทาง บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.)และลูกบ้านที่ซื้อบ้านจาก บริษัท เรสซิเดนท์นัมเบอร์ไนน์ อีกที กว่าพันหลังคาเรือน

ขอขอบคุณที่มาจาก : อสังหาพารวย by Palin